นางชุติภา กลิ่นสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี.แอล. เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ VL ดำเนินธุรกิจผู้ให้บริการขนส่งปิโตรเลียมและเคมีภัณฑ์ ทางทะเลทั้งในประเทศ และระดับภูมิภาคเอเชีย ให้แก่ผู้ประกอบการค้าน้ำมันเป็นหลัก เปิดเผยว่า บริษัทคาดแนวโน้มผลงานในไตรมาส 3/2565 น่าจะเติบโตต่อเนื่องจากช่วงไตรมาส 2/2565 เนื่องจากมองแนวโน้มอัตรการใช้เรือเฉลี่ยในไตรมาส 3/2565 จะขยับเพิ่มเป็นราว 90% จากช่วงไตรมาส 3/2565 ที่ประมาณ 80%
โดยสาเหตุการเติบโตข้างต้นนั้นเป็นผลมาจากแนวโน้มบรรยากาศเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิด -19 ในต่างประเทศคลี่คลายและกิจกรรมต่างๆ กลับมาสู่ภาวะปกติ ส่งผลให้ความต้องการขนส่งขยายตัว
อย่างไรก็ดี บริษัทมองว่าคงจะได้เห็นการจอดเรือขนส่งลดลง ส่งผลให้ความถี่การวิ่งเรือสูง และสามารถทำรายได้ได้มากขึ้น คาดทิศทางธุรกิจช่วงที่เหลือจะอยู่ในลักษณะนี้ไปจนถึงสิ้นปี 2565 ขณะเดียวกันคาดทิศทางผลประกอบการครึ่งปีหลัง 2565 จะดีกว่าครึ่งปีแรก
ทั้งนี้ ปัจจุบันทาง VL มีกองเรือให้บริการทั้งหมด 12 ลำ แบ่งเป็น เรือขนส่งในประเทศทั้งหมดจำนวน 9 ลำ ขนาดบรรทุกรวม 29,213.83 ตัน ซึ่งจำแนกเป็น เรือน้ำมันปิโตรเลียมจำนวน 6 ลำ, เรือน้ำมัน Fuel Oil จำนวน 1 ลำ, เรือน้ำมันดิบจำนวน 2 ลำ โดยทั้งหมดอยู่ภายใต้รูปแบบสัญญา COA
ส่วนเรือขนส่งในต่างประเทศนั้นจะมีจำนวน 3 ลำ ขนาดบรรทุกรวม 9,708.17 ตัน โดยจำแนกเป็น เรือน้ำมันปิโตรเลียม จำนวน 1 ลำ, เรือน้ำมันปาล์ม จำนวน 2 ลำ, (รูปแบบสัญญา COA และ SPOT) รวมทั้งมีแนวทางเพิ่มกองเรือเพิ่มเติม หวังเพิ่มขีดความสามารถการให้บริการให้มากขึ้น
ขณะที่จากการสำรวจข้อมูลล่าสุดบริษัทมีสัญญาในมือระยะยาว (Contract of Affreightment หรือ COA) ครบแล้ว โดยเซ็นสัญญาระยะยาว 3-5 ปี โดยสำหรับสินค้าหลักของบริษัทมีอยู่ 5 ประเภท คือ น้ำมันดิบ น้ำมันเตา น้ำมันใส น้ำมันหล่อลื่น และน้ำมันปาล์ม
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนทุ่มเงินลงทุนเกือบ 400 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อเรือใหม่เพิ่มเติม จำนวน 2 ลำ แบ่งเป็น เรือขนาด 3,000 เดตเวตตัน จำนวน 1 ลำ, เรือขนาด 8,000-10,000 เดตเวตตัน จำนวน 1 ลำ เพื่อเสริมศักยภาพกองเรือขนส่งของธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น
ขณะเดียวกันบริษัทยังคงเดินหน้ารักษาฐานลูกค้าในประเทศและขยายฐานลูกค้าในต่างประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีโอกาสเติบโตทางธุรกิจสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการขยายเส้นทางการเดินเรือใหม่ๆ ไปยังแถบประเทศอินเดีย-จีน เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจของบริษัทในอนาคต
ส่วนในแง่การขนส่งสินค้าของ VL ปัจจุบันให้บริการขนส่งในประเทศเป็นหลัก โดยมีสัดส่วนการขนส่งในประเทศเพิ่มขึ้น 80% จากเดิมสัดส่วนการขนส่งในประเทศอยู่ที่ 60% โดยการขนส่งในประเทศเพิ่มขึ้นจากความต้องการใช้น้ำมัน และกลุ่มลูกค้าโรงกลั่นกลับมาดำเนินธุรกิจปกติ ทำให้ดีมานด์การขนส่งสินค้าหรือน้ำมันเพิ่มขึ้น
ด้านทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลงนั้นทาง VL ประเมินว่าถือเป็นผลดีต่อธุรกิจ เพราะปัจจุบันราคาน้ำมันถือเป็นต้นทุนหลักของการให้บริการขนส่ง เพราะฉะนั้นราคาน้ำมันที่ปรับลดลงจะช่วยทำให้ธุรกิจสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
TWITTER คลิก https://twitter.com/thunhoon1
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม