#SALEE #ทันหุ้น – SALEE ลุ้นยอดขายปีนี้โตทะลุเป้ามากกว่า 20% ส่วนมาร์จิ้น 18% เปิดประเทศหนุนการค้าฟื้น มั่นใจดันผลงานปีนี้ติดเครื่องวิ่งต่อที่ 15-20% กระจายฐานลูกค้ากลุ่มภาครัฐงบลงทุนเพียบ โชว์ D/E ต่ำ 0.25 เท่า แย้มไม่ปิดกั้นโอกาสลงทุน

นายสุพจน์ สุนทรินคะ กรรมการและเลขานุการ บริษัท สาลี่อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ SALEE ประกอบธุรกิจรับจ้างผลิตชิ้นส่วนพลาสติกโดยกระบวนการขึ้นรูปพลาสติกและฉีดพลาสติก โดยมีบริษัทย่อยดำเนินธุรกิจพิมพ์ฉลากสินค้าคุณภาพสูงและธุรกิจผลิตและจำหน่ายสินค้าพลาสติกประเภทของใช้ในครัวเรือน เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจและผลประกอบการไตรมาส 3/2565 คาดจะดีกว่าช่วงเดียวกันกับปีก่อน แต่จะดีกว่าไตรมาส 2/2565 ที่ผ่านมาหรือไม่ อาจต้องรอดูตัวเลขที่ชัดเจนอีกครั้ง ทั้งนี้บริษัทมองปัจจัยหนุนที่จะทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นจากโรคโควิดกำลังจะหายไป

** จับตามาร์จิ้นพุ่ง

อีกทั้งต่างประเทศเปิดประเทศแล้ว บางประเทศฟรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยว ปัจจัยเหล่านี้จะสนับสนุนให้กิจกรรมทางธุรกิจทำได้ง่ายขึ้นจากก่อนหน้านี้มีข้อจำกัดค่อนข้างมาก

ส่วนทั้งปีนี้ คาดยอดขายจะเติบโตได้สูงกว่าเป้า หรือเติบโตมากกว่า 20% จากเดิมคาดโต 10% เพราะ 6 เดือนแรก 2565 บริษัทมียอดขายเติบโตสูงถึง 25% ดังนั้นการเติบโตในอัตรา 20% มีแนวโน้มเป็นไปได้สูง ขณะเดียวกันคาดอัตรากำไร (มาร์จิ้น) ปีนี้จะสูงกว่าปีก่อนที่ 18.07% โดย  6 เดือนแรกบริษัทมีมาร์จิ้นแล้วที่ 23.87%

สำหรับสัดส่วนยอดขายจะมาจากบริษัทใหญ่ หรือจากธุรกิจรับจ้างผลิตชิ้นส่วนพลาสติก (OEM) ประเภทอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า 45% ธุรกิจผลิตฉลากสินค้า 30%  (ดำเนินธุรกิจโดยบริษัทย่อย บริษัท สาลี่ พริ้นท์ติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SLP) ธุรกิจผลิตและจำหน่ายสินค้าประเภทประเภทพลาสติกของใช้ในครัวเรือน (ดำเนินธุรกิจโดย บริษัท เพชรสยาม (ประเทศไทย) จำกัด) 25%

ปัจจุบันบริษัทใช้ Utilization ธุรกิจ OEM อยู่ที่ 80% ธุรกิจผลิตฉลากสินค้า 70% และธุรกิจผลิตและจำหน่ายสินค้าประเภทประเภทพลาสติกของใช้ในครัวเรือน 70%

** ยอดขายโต 25%

“ครึ่งปีแรก 2565 เรามียอดขายโตเติบโตมากถึง 25% ขณะที่ค่าใช้จ่ายคงที่ ทำให้อัตราการทำกำไรเติบโตเพิ่มขึ้นสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับยอดขาย ส่วนช่วงที่เหลือปีนี้ เรายังมองภาพการเติบโตที่ดี แต่อาจจะดีไม่สุด เพราะยังมีปัจจัยเรื่องเงินเฟ้อที่ฉุดเศรษฐกิจอยู่บ้าง” นายสุพจน์ กล่าว

นายสุพจน์ กล่าวต่อว่า ในปี 2566 คาดยอดขายจะเติบโตประมาณ 15-20% จากการเปิดประเทศที่ทำให้กิจกรรมการค้าที่เริ่มทำได้มากขึ้น ขณะเดียวกันบริษัทกระจายความเสี่ยงขยายธุรกิจ ขายสินค้าไปในกลุ่มลูกค้าที่เป็นภาครัฐบาลในหลากหลายหน่วยงาน โดยมีแผนทำโปรเจ็กต์ร่วมกันอีกหลายโปรเจ็กต์ ซึ่งมองว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพที่ดี เนื่องจากมีงบประมาณและมีการลงทุนขนาดเล็กและใหญ่อย่างต่อเนื่อง

สำหรับกลุ่มลูกค้าอื่นๆ ของบริษัทรวมถึงบริษัทย่อย โดยรวมก็ยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีขึ้นต่อเนื่อง หลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายโดยมีทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ที่ทยอยเข้ามา

ขณะที่แผนการลงทุนซื้อกิจการ หรือการลงทุนใหม่ ปัจจุบันยังไม่มีแผน แต่บริษัทไม่ได้ปิดกั้นโอกาสการลงทุน หากมีบริษัทที่สนใจให้เจรจา บริษัทก็พร้อมพูดคุย อีกทั้งอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ปัจจุบันอยู่ที่ 0.25 เท่า ซึ่งอยู่ในระดับต่ำ สภาพคล่องสูง และมีศักยภาพในการหาแหล่งเงินทุนจากสถาบันทางการเงินได้อีกมาก อนึ่ง 6 เดือนแรก 2565 บริษัทยอดขายแล้ว 809.99 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 57.31 ล้านบาท

รู้ทันเกม  รู้ก่อนใคร  ติดตาม  "ทันหุ้น"  ที่นี่ 

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_ 

APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA 

APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7 

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5 

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news 

TWITTER คลิก https://twitter.com/thunhoon1