> SET > KTB

23 มกราคม 2023 เวลา 15:01 น.

4 โบรกฯ เปิดคำแนะนำ-ราคาเป้าหมายหุ้น "KTB"

#ทันหุ้น-  4 โบรกเกอร์ ส่อง หุ้น ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB แนะนำ "ซื้อ" เคาะพื้นฐาน 20.00-24.00 บาท


**บล.ดาโอ มุมมอง KTB กําไร Q4/65 ดีตามคาด, Q1/66E โต YoY/QoQ ต่อ  คงคำแนะนำ “ซื้อ” และราคาเป้าหมายปี 2566E ที่ 20.00 บาท อิง 2566E PBV ที่ 0.67x (-0.75D below 10-yr average PBV) 


KTB ประกาศกำไรสุทธิใน Q4/65 อยู่ที่ 8.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น +64% YoY แต่ลดลง -4% QoQ เป็นไปตามที่ตลาดและฝ่ายวิจัยคาด โดยมีกำไรจากเงินลงทุนมากกว่าคาด แต่ชดเชยไปกับการตั้งสำรองที่มากกว่าคาดจากกลุ่มลูกหนี้ที่เปราะบาง 


ด้าน NIM เพิ่มขึ้นมากกว่าคาดมาอยู่ที่ 2.85% (ฝ่ายวิจัยคาด 2.72%) เพิ่มขึ้นจาก Q3/65 ที่ 2.66% เพราะได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น และมีการปล่อยสินเชื่อภาครัฐลดลง ส่วน NPL ลดลงได้อยู่ที่ 3.26% จากไตรมาสก่อนได้ที่ 3.32% โดยมีการ write-off อีกราว 1 หมื่นล้านบาท


ยังคงประมาณการกำไรสุทธิในปี 2566E อยู่ที่ 3.6 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น +8% YoY ขณะที่คาดว่าแนวโน้มกำไรสุทธิใน Q1/66E จะเพิ่มขึ้นได้ทั้ง YoY และ QoQ จากสำรองฯ ที่ยังอยู่ในระดับต่ำและ NIM ที่เพิ่มขึ้นได้ดี


ราคาหุ้นปรับตัวลดลง -8% และ -5% ใน 1 เดือน และ 3 เดือนที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับ SET เพราะเจอแรงขายทำกำไรหลังจากที่ราคาหุ้น outperform กว่ากลุ่ม ขณะที่มองเป็นจังหวะเข้าซื้อเพราะขายที่ระดับต่ำเพียง PBV ที่ 0.69x ราคาหุ้นยังไม่สะท้อนกำไรรายไตรมาสที่ทำได้มากกว่าช่วงก่อนโควิด (ปี 2562 ราคาหุ้นทำจุดสูงสุดราว 21.00 บาท) และยังมี upside เพิ่มจากแอฟเป๋าตังที่เป็นดิจิทัลแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้มากสุดในประเทศไทยราว 40 ล้านคน ทำให้คาดว่าจะมี upside เพิ่มจากแนวโน้มรายได้ค่าธรรมเนียมที่มีโอกาสเพิ่มขึ้นได้มากกว่าคาด


**ด้านบล.เอเซีย พลัส ส่องหุ้น KTB แนวโน้มกําไร Q1/66 เติบโต QoQ รับอานิสงค์การปรับอัตราดอกเบี้ยเต็มไตรมาสและค่าใช้จ่ายดําเนินงานลดลงตามฤดูกาลซื้อ จากจุดแข็งด้าน Digital ผ่านความได้เปรียบบนฐานข้อมูลผู้ใช้งานแอพเป๋าตังราว 40 ล้านคน อีกทั้งในเชิง Valuation มี PBV ซื้อขาย 0.6 เท่า ยัง Laggard SCB และ KBANK สวนทาง ROE พร้อมประเมิน Div yield (จ่ายปีละครั้ง) ราว 5% ต่อปี สูงสุดใน ธ.พ. ใหญ่ (ปีก่อนประกาศเงินปันผลปลาย ก.พ. และ XD กลาง เม.ย.) แนะนำ "ซื้อ" ประเมินราคาเป้าหมาย 20.30 บาท

**บล.หยวนต้า ชี้ "KTB" PPOP ปรับขึ้นดี ปีนี้เน้นสร้าง Synergy กับพันธมิตร คาดผลดำเนินงานจะปรับตัวดีขึ้นต่อในปี 2566 โดยมีปัจจัยหนุนหลักจาก 1) การขยายตัวของพอร์ตสินเชื่อ โดยเฉพาะสินเชื่อโครงการภาครัฐฯ ที่จะได้รับการกระตุ้นในช่วง 2H65 หลังจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ประกอบกับสินเชื่อรายย่อยที่มีแนวโน้มโตดี หลังบริษัทหันมาขยายตลาดสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนสูงมากขึ้น เช่นสินเชื่อส่วนบุคคลของลูกหนี้ในกลุ่มราชการและรัฐวิสาหกิจ รวมถึงทำตลาดในกลุ่มลูกค้าทั่วไป ด้วยการพัฒนาช่องทาง Digital Platform ให้เข้าถึงง่ายขึ้น เน้นการเชื่อมโยงกับ “เป๋าตัง” และ “ถุงเงิน” ที่เป็น E-Wallet ที่มีฐานผู้ใช้งานจำนวนมาก เพื่อดึงดูดลูกค้าเข้าสู่ Krungthai Next ที่เป็น Platform หลักของ KTB


นอกจากนี้ยังมีการเชื่อมโยงกับ KTC มากขึ้น เช่น การเพิ่มช่องทางสมัครบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลของ KTC บน Krungthai Next รวมถึงการให้พนักงานของ KTB สามารถแนะนำสินเชื่อจานาทะเบียน “พี่เบิ้ม” ให้กับลูกค้าของธนาคารได้ ส่วนการตั้งสำรองคาดปรับขึ้นเล็กน้อย จากความเสี่ยงของพอร์ตที่สูงขึ้นหลังเพิ่มสัดส่วนสินเชื่อผลตอบแทนสูง หนุนให้คาด KTB จะมีกำไรสุทธิในปี 2566 จำนวน 36,446 ลบ. โต 8.2%YoY


KTB ได้เซ็น MOU ร่วมกับ ADVANC เพื่อร่วมทุนจัดตั้ง Virtual Bank ซึ่งถือเป็นประเด็นที่น่าสนใจ เนื่องจากจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ KTB สามารถเข้าถึงลูกค้าที่เป็นกลุ่ม Underbanked ที่เป็นฐานลูกค้าเครือข่ายโทรศัพท์มือถือและอินเทอเน็ตของ ADVANC (ฐานลูกค้ากว่า 45 ล้านราย) ขณะที่บริษัทมีความชานาญในธุรกิจธนาคารและการให้บริการทางการเงินบน Digital Platform อยู่แล้ว ทำให้ฝ่ายวิจัยมองว่ากลุ่ม KTB-ADVANC มีโอกาสสูงที่จะได้รับคัดเลือกเป็นผู้ประกอบการชุดแรก (1 ใน 3 ราย) จาก ธปท. (คาดทราบผล Q2/67)


ทั้งนี้ มอง KTB แม้มีความน่าสนใจจากพัฒนาการใหม่ๆ บนช่องทาง Digital Platform และเป็นธนาคารใหญ่ที่พอร์ตสินเชื่อมีความแข็งแรง ทั้งในแง่กลุ่มลูกค้าความเสี่ยงต่าและระดับ Coverage Ratio ที่สูงกว่าในอดีต อีกทั้งราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside 22.8% จากมูลค่าพื้นฐานเดิมปี 2566 ที่ 21 บาท (อิง Prospective PBV ที่ 0.7x) และคาดมีปันผลจ่ายอีกหุ้นละ 0.72 บาทคิดเป็น Div. Yield 4.2% (จ่ายปีละ 1 ครั้ง) จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”

**บล.กรุงศรี คาดแนวโน้มกำไร KTB ปี 2566 จะเติบโตตาม NIM ที่เพิ่มขึ้นเป็นหลัก คาดว่ากำไรจะยังเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ประมาณ 24% ในปี 2566 จากการขยายสินเชื่อ และ NIM ที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้จากการที่ KTB มุ่งเน้นขยายสินเชื่อที่คิดดอกเบี้ยลอยตัวให้กับลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และสินเชื่อรายย่อยประเภทที่ความเสี่ยงต่ำ โดยเฉพาะกลุ่มที่โยงกับการจ่ายเงินเดือน ในขณะเดียวกัน KTB มีสัดส่วน CASA สูงที่สุดในกลุ่มธนาคารที่กว่า 80% ของโครงสร้างเงินฝาก ทำให้เชื่อว่า KTB จะเป็นหนึ่งในธนาคารที่ได้อานิสงส์เต็มๆ จากวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้น และคาดว่าโมเมนตัมกำไรของ KTB จะเร่งตัวขึ้นทั้ง qoq และ yoy ได้ใน Q1/66 จากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลงตามฤดูกาล และ NIM เพิ่มขึ้นหลังมีการขึ้นดอกเบี้ยหลายรอบในช่วงที่ผ่านมานัยยะ / คำแนะนำ


คงคำแนะนำซื้อ จากแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่ง และราคาหุ้นยังมี upside ประเมินราคาเป้าหมายใหม่ที่ 24 บาท อิงจาก PBV ที่ 0.8x (จากเดิมที่ 23 บาท)


รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X