#ทันหุ้น #JTS - เตือนแล้ว "หุ้นขุดบิทคอยน์" ประกาศงบพัง JTS สุดทนค่าไฟประกาศเลิกขุดบิทคอยน์ในไทย ปิดตำนานราคาหุ้นที่เคยร้อนขึ้นไปสูงสุด 594 บาท วันนี้เหลือ 40 บาท สงสารเม่าขาดทุน 93% เทียบกับการลงทุนบิทคอยน์เองวันนี้ขาดทุนแค่ 65% นายกสมาคมฟินเทคย้ำไทยไม่เหมาะขุดบิทคอยน์ค่าไฟสูง ส่วนสถานการณ์บิทคอยน์ตอนนี้ขึ้นมาจริง แต่ยังเสี่ยงลง

นับเป็นการปิดตำนานหุ้นขุดบิทคอยน์ที่ราคาเคยวิ่งมหาโหดไปถึง 594 บาท ของ บริษัท จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ JTS เมื่อล่าสุดบริษัทได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ได้หยุดดำเนินธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์เป็นการชั่วคราวตั้งแต่เดือนมกราคม 2566

โดย JTS ได้เขียนคำอธิบายงบการเงิน เปิดเผยถึงแผนธุรกิจในปี 2566 ว่า บริษัทยังคงติดตามสภาวการณ์ต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์อย่างรอบคอบและระมัดระวัง โดยเฉพาะต้นทุนค่าไฟฟ้าที่มีการปรับราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงได้ดำเนินการหยุดดำเนินธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์เป็นการชั่วคราวตั้งแต่เดือนมกราคม 2566

และพิจารณาทางเลือกในการย้ายฐานการขุดบิทคอยน์ไปยังต่างประเทศที่มีศักยภาพ ทั้งในด้านทรัพยากรต่างๆ และการสนับสนุนจากภาครัฐ โดยเฉพาะต้นทุนค่าไฟฟ้าที่ตํ่าและจะต้องสามารถบริหารจัดการเครื่องขุดได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่มีความเสี่ยงในด้านความปลอดภัยของการเข้าถึงเครื่องขุดบิทคอยน์ เพื่อให้ธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ของบริษัทสามารถแข่งขันในระดับสากล เพื่อรักษาผลประโยชน์ของบริษัทและผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย

โดยในปี 2566 จะมุ่งเน้นในธุรกิจออกแบบและวางระบบสื่อสารและโทรคมนาคม ธุรกิจให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคม และธุรกิจจัดหา ออกแบบและวางระบบคอมพิวเตอร์ โดยเน้นลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่เป็นนิติบุคคลขนาดใหญ่ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต  อีกทั้งให้ความสําคัญกับธุรกิจทางด้านพลังงานทดแทนหรือพลังงานสะอาด ทั้งตัวแทนจําหน่ายและผู้ให้บริการแบบครบวงจรสําหรับโซลาร์เซลล์

นี่คือการยอมรับสภาพของธุรกิจการขุดบิทคอยน์ที่พังไม่เป็นท่า และหันมาสู่ธุรกิจอื่น!

@งบชี้ชัดพังจากบิทคอยน์

หากพิจารณางบการเงินของ JTS ปี 2565 ที่ได้แจ้งเข้ามาจะพบว่าในปีนี้บริษัทขาดทุนสุทธิถึง 247.17 ล้านบาท โดยธุรกิจขุดบิทคอยน์ที่บริษัทประกาศทุ่มลงทุนนั้นทำรายได้ปี 2565 ได้เพียง 143.07 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งหากโฟกัสเข้าไปที่ไตรมาส 4/2565 บริษัทมีรายได้จากการขุดบิทคอยน์ลดลงเหลือแค่ 38.35 ล้านบาทลดลงความไตรมาส 3/2565 ที่มีรายได้ 56.03 ล้านบาท

แต่เมื่อมาดูต้นทุนการขุดบิทคอยน์ไตรมาส 4/2565 จะพบว่าสูงถึง 377.31 ล้านบาท เทียบกับต้นทุนการขุดบิทคอยน์ไตรมาส 3/2565 ที่มีต้นทุน 161.76 ล้านบาท ว่ากันง่ายๆ เฉพาะไตรมาส 4 บริษัทขาดทุนจากบิทคอยน์ ถึง 341.96 ล้านบาท พังไม่เป็นท่า

@ไทยไม่เหมาะขุดเหรียญ

นายชลเดช  เขมะรัตนา  นายกสมาคมฟินเทคประเทศไทย เปิดเผยว่า ไทยไม่เหมาะกับการดำเนินธุรกิจขุดบิทคอยน์ เนื่องจากมีต้นทุนค่าไฟฟ้าที่สูงกว่าประเทศอื่น ขณะที่การลงทุนเครื่องขุดบิทคอยน์ก็ไม่สามารถจะมีเรตการได้เหรียญบิทคอยน์ได้สูงตลอดไป เพราะนานไปก็จะได้เหรียญต่ำลง ดังนั้น เมื่อโอกาสการได้เหรียญต่ำจากเทคโนโลยีที่ล้าสมัย และค่าไฟสูงทำให้ไม่คุ้มค่า โดยค่าไฟฟ้านับเป็นต้นทุนที่สูงที่สุดในการขุดบิทคอยน์ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่บริษัทจดทะเบียนที่เคยประกาศขุดบิทคอยน์ในไทยจะล้มเลิกโครงการนี้ ซึ่งเคยเตือนไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนการลงทุนในประเทศอื่นถ้าค่าไฟฟ้ายังถูกก็สามารถที่จะเปิดเครื่องขุดได้ หากการได้เหรียญยังคงคุ้มค่า

"กลไกบิทคอยน์ ต้องมีคนที่ทำหน้าที่ขุดเหรียญ ซึ่งต้องทำในที่ที่มีค่าไฟต่ำ โดยเฉพาะช่วงนี้ที่ราคายังไม่ได้ขยับไปไหน"

นายชลเดช ประเมินว่า สถานการณ์ของราคาบิทคอยน์นั้นตอนนี้ดูดีขึ้นมา แต่ก็ต้องระมัดระวัง เพราะในเชิงเทคนิคจะพบว่ามีสัญญาณขัดแย้งกับราคาที่ฟื้นตัวขึ้นขณะนี้ อาจจะมีการลงได้ โดยส่วนตัวมองว่า ราคาบิทคอยน์จะยังไม่ไปไหนในปีนี้ ก่อนที่จะเริ่มขยับในปีหน้าที่เป็นช่วงที่ระบบจะมีการเพิ่มความยากของการขุดเหรียญ ซึ่งจะทำให้ซัพพลายที่ขุดได้น้อยลง และมีโอกาสที่ราคาจะขึ้น โดยผู้ที่จะลงทุนบิทคอยน์ควรลงทุนด้วยตัวเองดีกว่าการถือผ่านบริษัทจดทะเบียน และต้องเน้นการเทรดในกรอบ รวมไปถึงดูตลาดแนสแดกของสหรัฐอเมริกาด้วย ซึ่งทรงยังไม่แน่ใจว่าจะขึ้นได้ ยังมีความเสี่ยง

@ลงทุนบิทคอยน์เองดีกว่า

ทั้งนี้หากประเมินการลงทุนหุ้นขุดบิทคอยน์เทียบกับการลงทุนบิทคอยน์ด้วยตัวเองจะพบว่า การลงทุนบิทคอยน์ด้วยตัวเองจะมีการขาดทุนน้อยกว่า โดยหากวัดจากราคาสูงสุดของบิทคอยน์ที่ขึ้นไปแตะ 69,335 เหรียญสหรัฐ เทียบกับราคาล่าสุดที่ระดับ 24,305 เหรียญสหรัฐ จะพบกว่าขาดทุนราว 64.94% แต่ถ้าลงทุนใน JTS ในราคาสูงสุดที่ 594 บาท เทียบล่าสุดที่เหลือ 40 บาท จะพบว่าราคาร่วงลงถึง 93.26% ส่วน ZIGA อีกหนึ่งหุ้นขุดบิทคอยน์เคยสูงสุดที่ 24.6 บาท ล่าสุดอยู่ที่ 3.46 บาท ขาดทุนถึง 85.93%

โดยยังคงต้องจับตาหุ้นขุดบิทคอยน์ตัวอื่นๆ อาทิ BROOK, UPA, ZIGA, AJA, SMT, THL เป็นต้น โดยเฉพาะการแจ้งผลประกอบการที่ออกมา

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1