#LPH #ทันหุ้น – LPH รับอานิสงส์ประกันสังคมขึ้นค่ารักษาเป็น 1,808 บาทต่อราย หนุนรายรับพุ่ง พร้อมวางหมากปีนี้รายได้ค่ารักษาปกติทะยาน 15% จากปีก่อน อานิสงส์ยอดผู้ใช้บริการขยายตัว แถมเดินหน้าขยายฐานผู้ป่วยต่างชาติ อัพฐานโกยเงินเพิ่ม โบรกคาดผลงานปี 2566 กลับเข้าสู่ระดับปกติ เคาะเป้า 7.10 บาท

ดร.อังกูร  ฉันทนาวานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลลาดพร้าว จำกัด (มหาชน) หรือ LPH เปิดเผยว่า ในแง่ประเด็นที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) สํานักงานประกันสังคม (สปส.) มีมติอนุมัติให้มีการปรับอัตราเหมาจ่ายรายปีขึ้นจาก 1,640 บาทต่อราย เป็น 1,808 บาทต่อราย ในการเข้ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาลตามสิทธิ์ ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2566 เป็นต้นไป

อย่างไรก็ จากการปรับเพิ่มอัตราค่ารักษาพยาบาลของสปส.ครั้งนี้  ทาง LPH มองว่าน่าจะเป็นปัจจัยบวกต่อธุรกิจอย่างชัดเจน เพราะช่วยผลักดันให้รายได้ขยายตัวมากขึ้น

ทั้งนี้ ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของ LPH มาจากกลุ่มผู้ประกันตนในส่วนของประกันสังคมอยู่ที่ประมาณ 45%, กลุ่มผู้ป่วยเงินสดอีกราว 55% ซึ่งหากจำแนกเฉพาะฐานผู้ป่วยประกันสังคมล่าสุดอยู่ที่กว่า 1.7 แสนราย (ปัจจุบันบริษัทมีโควตารวมราว 2 แสนราย) ดังนั้นปีนี้บริษัทจึงมีแนวทางทำตลาดในกลุ่มผู้ประกันตนของสปส.ให้มากขึ้น เพื่อสนับสนุนการเติบโตในอนาคตอีกทางหนึ่ง

*ตั้งเป้าปีนี้โตต่อ

ขณะเดียวกันล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวศูนย์ผู้ป่วยประกันสังคมแห่งใหม่ บริเวณถนนลาดพร้าว ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาลลาดพร้าวในปัจจุบัน ซึ่งสามารถรองรับผู้เข้าในส่วนผู้ป่วยนอก (OPD) ได้ประมาณ1,000-1500 รายต่อวัน เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการในส่วนดังกล่าวให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2566 บริษัทตั้งเป้ารายได้จากการให้บริการรักษาพยาบาลปกติ (ไม่รวมกลุ่มบริการรักษาที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19) จะเติบโตประมาณ 15% เมื่อเทียบกับปี 2565 เนื่องจากแนวโน้มผู้ป่วยทั้งเงินสดและสปส.กลับมาใช้บริการตรวจรักษาพยบาลในโรงพยาบาลของบริษัทเพิ่มสูงขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแนวทางในการทำตลาดในส่วนของผู้ป่วยชาวต่างประเทศให้มากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของผู้ป่วยชาวกัมพูชาและเมียนมาเพิ่มเติม จากเดิมที่มีการทำตลาดกลุ่มตะวันออกกลางแล้ว หวังขยายช่องทางสร้างรายได้ให้กว้างขึ้น

*ผลงานกลับสู่ภาวะปกติ

บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุถึง LPH ว่า คาดว่าปี 2566 จะยังเป็นอีกหนึ่งปีที่ผลประกอบการเดินหน้ากลับเข้าสู่ระดับปกติโดยคาดว่าผลการดำเนินงานของ LPH ในปี 2566 จะลดลง YoY เพราะได้รับผลจาก COVID-19 ลดลง และรัฐบาลจ่ายค่ารักษาผู้ป่วย COVID-19 ลดลงมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2565

โดยรายได้จากการรักษาบริการที่ไม่เกี่ยวกับ COVID เป็นตัวขับเคลื่อนเพียงตัวเดียวตั้งแต่ครึ่งปีหลัง 2565 เป็นต้นมา ทั้งนี้คาดว่าบริษัทจะต้องใช้เวลาสักพักกว่าที่รายได้จากบริการที่ไม่เกี่ยวกับ COVID จะกลับไปอยู่ระดับเดียวกับปี 2564 อย่างไรก็ตาม มองว่า LPH ยังคงได้ประโยชน์จาก AMARC ซึ่งถือหุ้นอยู่ 69.39% จากแนวโน้มการเติบโตในอนาคต จากผลประกอบการปี 2565 ยังคงประมาณการกำไรสุทธิปีนี้เอาไว้เท่าเดิมที่ 285 ล้านบาท (-11.8%YoY)

อย่างไรก็ดี ยังมองบวกกับแนวโน้มระยะยาวของบริษัทเพราะคาดว่าธุรกิจการรักษาพยาบาลจะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการที่ประเทศไทยเข้าสู่ภาวะสังคมสูงวัยในระยะยาว นอกจากนี้ Platform ของบริษัทในส่วนของศูนย์การแพทย์เฉพาะทางยังพร้อมที่จะตอบสนองต่ออุปสงค์ในอนาคตด้วย ดังนั้นจึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยยังคงราคาเป้าหมาย DCF เอาไว้เท่าเดิมที่ 7.10 บาท (ใช้ WACC ที่ 8% และ TG ที่ 2.0%)

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1