#LPH #ทันหุ้น – LPH ครึ่งปีหลังแนวโน้มสดใส ผู้ป่วยต่างชาติกลับมารักษามากขึ้นพร้อมดันสัดส่วนจาก 5% เป็น 10%หนุนเติบโตระยะยาว ย้ำรุกฐานผู้ป่วยประกันสังคมต่อเนื่อง คาดครบ 2 แสนราย ปี 2567 พร้อมเปิดรพ.จักษุอินเตอร์ฯ-ศัลยกรรมเฉพาะทาง โกยรายได้เพิ่ม
ดร.อังกูร ฉันทนาวานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลลาดพร้าว จำกัด (มหาชน) หรือ LPH เปิดเผยว่า สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทมองว่าโดยรวมก็ยังเติบโตต่อเนื่อง จากปัจจุบันมีคนไข้ภายในประเทศกลับมาเข้ารับการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น ทั้งคนไข้ภายนอก (OPD) และคนไข้ใน (IPD) โดสัดส่วนรายได้มาจากกลุ่มผู้ป่วยจากประกันสังคม (สปส.)ราว 45% เเละกลุ่มผู้ป่วยเงินสดราว 55%
ทั้งนี้ทางโรงพยาบาลมีฐานผู้ป่วยประกันสังคมล่าสุดอยู่ที่กว่า 1.7 แสนราย (ปัจจุบันบริษัทมีโควตารวมราว 2 แสนราย) ดังนั้นปีนี้บริษัทจึงมีแนวทางทำตลาดในกลุ่มผู้ประกันตนของสปส.ให้มากขึ้น คาดว่าจะครบ 200,000 ราย ในช่วงตั้นปี 2567 โดยจำนวนผู้ป่วยประกันสังคมที่เพิ่มขึ้นก็จะช่วยสนับสนุนการเติบโตในอนาคตอีกทางหนึ่ง และในช่วงที่ผ่านมาได้มีการเปิดศูนย์การแพทย์ประกันสังคมลาดพร้าวแห่งใหม่ฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาลเดิมด้วย เพื่อรองรับฐานผู้ป่วยที่ใหญ่ขึ้น สามารถรับผู้ป่วยนอกประกันสังคม วันละ 1,000 คน และเป็นศูนย์ตรวจสุขภาพประกันสังคมด้วย
เพิ่มสัดส่วนต่างชาติแตะ10%
ขณะที่ผู้ป่วยต่างชาติก็ทยอยกลับมามากขึ้นเช่นเดียวกัน ส่วนใหญ่จะเป็นคนไข้จากทวีปตะวันออกกลาง รวมถึงคนไข้ประเทศกัมพูชา ซึ่งสนใจเข้ารับการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยประเมินรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติในปี 2566 ไว้ที่ 120-150 ล้านบาท จากปี 2565 ซึ่งอยู่ที่ 100 ล้านบาท เทียบกับฐานปกติ 80 ล้านบาทต่อปี ซึ่งจะช่วยให้สัดส่วนผู้ป่วยเงินสดเพิ่มสูงขึ้นด้วย
ปัจจุบันโรงพยาบาลมีสัดส่วนคนไข้ต่างประเทศรวมทั้งหมดไม่ถึง 5% โดยตั้งเป้าว่าภายใน 3 ปี (2566-2568) จำนวนผู้ป่วยจากต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นมาเป็นสัดส่วนที่ 10%
เน้นทำรพ.เฉพาะทาง
ขณะที่ความคืบหน้าของการลงทุนสร้างโรงพยาบาลเฉพาะทางแห่งใหม่ที่ถนนลาดพร้าว โรงพยาบาลจักษุอินเตอร์ฯ ลาดพร้าว มูลค่าการลงทุน 500 ล้านบาท และโรงพยาบาลศัลยกรรมเฉพาะทางรวมผ่าตัดหัวใจครบวงจร มูลค่าการลงทุน 500 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างขออนุญาตก่อสร้าง (EIA) ซึ่งหากได้รับการอนุมัติคาดว่าจะใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 1 ปีครึ่ง พร้อมเปิดให้บริการในช่วงต้นปี 2567 และบริษัทมีแผนขยายการลงทุน โรงพยาบาลตรวจสุขภาพเพิ่มขึ้นอีกด้วย
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2566 บริษัทมั่นใจว่ารายได้รวมเติบโต 20-25% เมื่อเทียบกับปี 2565 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 2,437.03 ล้านบาท เเละมี กำไรสุทธิที่จำนวน 322.91 ล้านบาท จากปัจจัยตอนต้นที่คาดว่าจำนวนผู้ป่วยจากต่างประเทศโดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าตะวันออกกลาง (อาหรับ) และประเทศกัมพูชาจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น
บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุถึง LPH ว่า คาดว่าปี 2566 จะยังเป็นอีกหนึ่งปีที่ผลประกอบการเดินหน้ากลับเข้าสู่ระดับปกติโดยคาดว่าผลการดำเนินงานของ LPH ในปี 2566 จะลดลง YoY เพราะได้รับผลจาก COVID-19 ลดลง และรัฐบาลจ่ายค่ารักษาผู้ป่วย COVID-19 ลดลงมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2565 แต่รายได้จากการรักษาบริการที่ไม่เกี่ยวกับ COVID เป็นตัวขับเคลื่อนเพียงตัวเดียวตั้งแต่ครึ่งปีหลัง 2565 เป็นต้นมา
อย่างไรก็ดี ยังมองบวกกับแนวโน้มระยะยาวของบริษัทเพราะคาดว่าธุรกิจการรักษาพยาบาลจะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการที่ประเทศไทยเข้าสู่ภาวะสังคมสูงวัยในระยะยาว นอกจากนี้ Platform ของบริษัทในส่วนของศูนย์การแพทย์เฉพาะทางยังพร้อมที่จะตอบสนองต่ออุปสงค์ในอนาคตด้วย ดังนั้นจึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยยังคงราคาเป้าหมาย DCF เอาไว้เท่าเดิมที่ 7.10 บาท (ใช้ WACC ที่ 8% และ TG ที่ 2.0%)
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม