นายวงศกร พิเศษสิทธิ์ ผู้อำนวยการอาวุโสและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท คิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ. จำกัด (มหาชน) หรือ K ผู้ประกอบธุรกิจออกแบบและตกแต่งงานแบบครบวงจร 4 ประเภท ประกอบด้วย 1.ธุรกิจงานตกแต่งภายใน (Interiors) 2.ธุรกิจงานแสดงสินค้าและนิทรรศการ (Exhibitions) 3.ธุรกิจการตลาดทางเลือก (Alternative Marketing) และ 4.ธุรกิจงานพิพิธภัณฑ์และสวนสนุกแนวคิด (Museums & Thematic Park) เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลัง 2566 อาจต้องขึ้นอยู่กับการเมืองในประเทศ หากมีการชุมนุมในครึ่งปีหลัง อาจส่งผลต่องานจัดแสดงสินค้า (อีเวนต์) รวมถึงร้านค้าต่างๆ ในห้างสรรพสินค้า อาจจะมีจำนวนคนเดินซื้อของอุปโภคบริโภคลดลง
สำหรับกรณีเกิดเหตุร้ายแรงสุด หรือได้รับผลกระทบทางการเมืองในประเทศ คาดจะทำให้รายได้ลดลงประมาณ 5-10% จากเป้า 850 ล้านบาท แต่หากไม่มีเหตุร้ายแรงคาดรายได้จะทำได้ใกล้เคียงเป้า สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลัง 2566 บริษัทจะเน้นงานอินทีเรีย หรืองานตกแต่งภายในขนาดเล็ก เช่น Pop Up Store และเกิดความคุ้มค่ากต่อการดำเนินงาน และสร้างอัตรากำไร (มาร์จิ้น) ให้กับบริษัท
ส่วนแนวโน้มงานใหม่ในช่วงครึ่งปีหลัง 2566 คาดจะมีงานออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในประเทศ หากไม่มีปัจจัยรุนแรงคาดจะมีงานอินทีเรีย หรือตกแต่งภายในเพิ่มเติม ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ หรือ Backlog อยู่ที่ 420-450 ล้านบาท คาดจะสามารถบุ๊กเป็นรายได้ช่วงที่เหลือปีนี้ได้ราว 400 ล้านบาท
นายวงศกร กล่าวต่อว่า สำหรับทิศทางผลประกอบการจากการดำเนินงานต้นปีที่ผ่านมามีแนวโน้มเป็นบวก หากไม่มีปัจจัยลบเพิ่มเติม คาดผลประกอบการจะดูดีขึ้นเรื่อยๆ ในทุกไตรมาส
อนึ่งผลประกอบการงวดไตรมาส 1/2566 บริษัทมีรายได้จากการให้บริการ 192.5 ล้านบาท คิดเป็นการลดลง 6.5% สาเหตุหลักมาจากสายธุรกิจงานตกแต่งภายในรับงานลดลงแต่เพิ่มรับงานในสายธุรกิจจัดงานแสดงสินค้าและกิจกรรมทางการตลาดมากขึ้น เพราะสามารถบริหารให้มีกำไรได้เป็นที่น่าพอใจ และสามารถบริหารต้นทุนการให้บริการลดลงมาอยู่ที่ระดับ 163.11 ล้านบาท คิดเป็นการลดลง 14.5% ส่งผลให้มีกำไรขั้นต้น 29.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 92.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งกำไรส่วนใหญ่มาจากงานงานแสดงสินค้าและงานกิจกรรมทางการตลาดที่เริ่มฟื้นตัวอย่างชัดเจน
จากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ไตรมาส 1/2566 บริษัทมีผลกำไรจากการดำเนินงานก่อนภาษี 6.46 ล้านบาท แต่เมื่อหักค่าใช้จ่ายภาษี 11.77 ล้านบาท (ซึ่งเกิดจากการปรับปรุงรายการสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี) ทำให้เกิดขาดทุนสุทธิ 5.30 ล้านบาท (เป็นของเฉพาะกิจการ 5.18 ล้านบาท ส่วนบริษัทย่อย 0.12 ล้านบาท)
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม