#ALLA #ทันหุ้น - ALLA มองครึ่งหลังปี 2566 โดดเด่น เร่งเครื่องประมูลชิงงานงานติดตั้งเครนและรอกไฟฟ้าใหม่เติมพอร์ต กว่า 4-5 โปรเจ็กต์ คาดไตรมาส 3/2566 ได้เห็นอย่างน้อย 1-2 โครงการ ตุนแบ็กล็อกหนา 550 ล้านบาท คาดรับรู้เป็นรายได้ทั้งหมดในปี 2566 นี้ มั่นใจผลงานทั้งปีนี้ดีกว่าปีก่อน พร้อมกางแผนลุยธุรกิจพลังงานสะอาด โซลาร์รูฟท็อปเนื้อหอม

นายองอาจ  ปัณฑุยากร  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล่า จำกัด (มหาชน) หรือ ALLA เปิดเผยว่า ประเมินภาพรวมธุรกิจและอุตสาหกรรมในช่วงครึ่งหลังปี 2566 อาจมีโอกาสในการขยายตัวที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ สอดคล้องตามการขยายตัวของการลงทุนและโรงงาน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้มีการยื่นเสนอราคางานติดตั้งเครนและรอกไฟฟ้าให้กับโรงไฟฟ้า (Crane and Hoist) ขนาดใหญ่ไปแล้ว ประมาณ 4-5 โครงการ มูลค่าเฉลี่ยตั้งแต่ 10 ล้านบาทต่อโครงการเป็นต้นไป

*จ่อคว้างานใหม่

เบื้องต้นคาดว่าไม่เกินต้นไตรมาส 3/2566 จะได้เห็นความชัดเจนของการประมูลงานอย่างน้อย 1-2 โครงการ ขณะเดียวกันก็มีโอกาสที่จะได้รับงานติดตั้งเครนและรอกไฟฟ้าให้กับโรงไฟฟ้าขนาดเล็กเข้ามาเพิ่มเติมอีกอย่างน้อย 2-3 โครงการ มูลค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 5-10 ล้านบาท เข้ามาเพิ่มเติม ขณะเดียวกันบริษัทยังมีอีกหลายโครงการที่อยู่ระหว่างการเจรจาและเซ็นสัญญารับงานใหม่อีกหลายโครงการ โดยที่ส่วนใหญ่คาดว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนในช่วงครึ่งหลังปี 2566

นอกจากนี้ บริษัทยังคาดว่าในช่วงครึ่งหลังปี 2566 นี้ จะมีงานโครงการใหม่ๆ ทั้งในส่วนของหน่วยงานภาครัฐ และโดยเฉพาะในส่วนของภาคเอกชนที่จะทยอยออก TOR เข้ามาเพิ่มเติมอีกหลายโครงการ ซึ่งบริษัทก็ยังมีความสนใจเข้าร่วมประมูลด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดี ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่างานในมือ (Backlog) อยู่ที่ประมาณ 500-550 ล้านบาท ที่คาดว่าจะทยอยส่งมอบและรับรู้เป็นรายได้เข้ามาทั้งหมดภายในปี 2566 นี้

"สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2566 นี้ ปัจจุบันเรายังคงมองว่าการเติบโตยังคงดีกว่าปีก่อน จากหลายๆ ปัจจัยที่เป็นไปในทิศทางที่บวก โดยปีก่อนเรามีรายได้รวมที่ 720.48 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิที่ 53.14 ล้านบาท ซึ่งในไตรมาส 1/2566 ทำรายได้รวมอยู่ที่ 178.68 ล้านบาท และกำไรสุทธิที่ 15.85 ล้านบาท และมองว่าผลประกอบการในไตรมาส 2/2566 ที่กำลังจะออกมาจะมีการเติบโตที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากไตรมาสแรกของปีนี้ด้วยเช่นกัน" นายองอาจ กล่าว

*ลุยพลังงานสะอาด

สำหรับธุรกิจติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) นั้น มองว่าในช่วงครึ่งหลังปี 2566 ยังมีโอกาสในการเติบโตอีกมาก ต้องยอมรับว่าจากเทรนด์แนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืน หรือ ESG ที่คำนึงถึงในด้านความรับผิดชอบของบริษัทต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้ได้รับความสนใจจากทั้งลูกค้ารายเดิมและรายใหม่เข้ามาติดต่ออย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาบริษัทมีการติดตั้งไปแล้วมากกว่า 10 เมกะวัตต์ แม้มูลค่าอาจไม่สูงมากนักแต่ก็มีงานเข้ามาเรื่อยๆ ทำให้มี Backlog ในส่วน EPC อยู่ที่แล้วกว่า 40-50 ล้านบาท

ขณะที่การแตกไลน์ลงทุนในธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับสถานีชาร์จไฟฟ้าในยานยนต์ ที่มีการตอบรับที่ดีจากลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันบริษัทเป็นตัวแทนจำหน่ายให้กับผลิตภัณฑ์ทั้งสัญชาติยุโรปและจีน ทำให้มีผลิตภัณฑ์นำเสนอลูกค้าได้หลากหลายประเภทและระดับราคา ทั้งนี้ บริษัทมีแนวทางในการรับงาน 2 ทาง แบ่งเป็น 1. ให้บริการติดตั้งกับผู้ใช้งานโดยตรง (End User) โดยเฉพาะ Home User ซึ่งในส่วนนี้ปัจจุบันได้มีการให้บริการไปแล้วหลายสิบราย

และ 2. การเป็นผู้รับเหมาช่วง (Subcontract) ติดตั้งสถานีชาร์จให้กับลูกค้ารายใหญ่ เช่น อพาร์ตเมนต์ คอนโดมิเนียม และอาคารสำนักงาน ทั้งให้บริการในด้านพัฒนาระบบ และอุปกรณ์เสริมต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ในตอนนี้บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรผู้พัฒนาระบบชำระเงินแบบแอปพลิเคชัน เพื่อนำมารองรับการให้บริการกับลูกค้าให้มีช่องทางการชำระเงินที่สะดวกและง่ายต่อการเข้าถึง คาดว่าภายในช่วงไตรมาส 3/2566 จะเปิดให้บริการได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1