#SKE #ทันหุ้น - วงในส่งซิก Q2/2566 ผลงานของ SKE เทิร์นอะราวด์ อานิสงส์ยกเครื่องชีวมวลจบทำต้นทุนลด ส่วนธุรกิจอื่นสดใส ดีเดย์แจ้งตัวเลขชัดเจนไม่เกินกลางสิงหาคมนี้ ด้านผู้บริหาร "จักรพงส์ สุเมธโชติเมธา" เดินหน้าเร่งเครื่องปั๊ม RDF โกยเงินเต็มพิกัด หลังปิดดีลร่วมเจ้าของบ่อขยะ ดันซัพพลายทะยานพุ่งสู่ระดับประมาณ 600 ตันต่อวัน พร้อมยืนเป้าปีนี้รายได้ราว 1 พันล้านบาท
แหล่งข่าววงการอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจของบริษัท สากล เอนเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ SKE ในช่วงไตรมาส 2/2566 คาดจะได้เห็นตัวเลขพลิกกลับมาบวกอย่างชัดเจน (เทิร์นอะราวด์) เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า หลังการปรับโครงสร้างภายในโรงไฟฟ้าชีวมวลแม่กระทิง (MKP) เสร็จสิ้น ส่งผลให้ต้นทุนทางด้านเชื้อเพลิงลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ธุรกิจอื่นๆ ก็ดีขึ้นต่อเนื่อง
จับตา SKE งบเทิร์นอะราวด์
ทั้งนี้ ทาง SKE จะมีการนำเรื่องงบการเงินเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) เพื่อพิจารณาอนุมัติ และจะดำเนินการแจ้งตัวเลขอย่างเป็นทางการต่อทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ไม่เกินกลางเดือนสิงหาคมนี้
ด้านนายจักรพงส์ สุเมธโชติเมธา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สากล เอนเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ SKE เปิดเผยว่า แนวทางการดำเนินงานของบริษัทในช่วงที่เหลือปี 2566 จะมุ่งให้ความสำคัญกับการเร่งผลิตเชื้อเพลิงจากขยะ (RDF) ให้มากขึ้น หลังจากช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้มีการบรรลุข้อตกร่วมเป็นพาร์ตเนอร์ต่างๆ ประมาณ 5-6 ราย ซึ่งพาร์ตเนอร์เหล่านี้ล้วนเป็นเจ้าของพื้นที่บ่อขยะในพื้นที่ใกล้เคียงโรงผลิต RDF ทั้งในจังหวัดสระบุรีและชลบุรี หวังส่งมอบ RDF ตามคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) ในกลุ่มลูกค้าที่ประกอบธุรกิจปูนซีเมนต์ให้เพิ่มมากขึ้น จากเดิมส่งมอบ RDF ให้ลูกค้ากลุ่มข้างต้นเพียง 200 ตันต่อวัน
ลุยปั๊ม RDF เต็มพิกัด
อย่างไรก็ดี จากความร่วมกับทางพาร์ตเนอร์ที่เป็นเจ้าของบ่อขยะนั้นส่งผลให้บริษัทมีซัพพลายปรับตัวเพิ่มเป็นประมาณ 600-700 ตันต่อวัน (ความต้องการซัพพลายจากโรงผลิต RDF ทั้ง 2 โรงอยู่ที่ 800 ตันต่อวัน) จึงทำให้ความสามารถในการผลิต RDF เพิ่มขึ้นอย่างมาก และเพียงพอรองรับออเดอร์ของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ตลอดจนยังสนับสนุนการเติบโตของภาพรวมธุรกิจในอนาคต
ขณะที่แนวโน้มการดำเนินงานในปี 2566 บริษัทยังคงเป้ารายได้ไว้ราว 1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ที่ราว 497 ล้านบาท เนื่องจากมีการรับรู้รายได้ธุรกิจ RDF เข้ามาเพิ่มขึ้นอย่าง นอกเหนือ จากธุรกิจในส่วนอื่นๆ ที่อยู่ในเกณฑ์ที่ดี ตลอดจนธุรกิจยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้มีประสิทธิภาพด้วย
พร้อมกันนี้ ทาง SKE ยังมองหาโอกาสในการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจพลังงานสะอาด พลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือกบนกระแสการทำธุรกิจ Green Economy ที่ทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญ โดยจะเน้นกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจแบบครอบคลุมในการขยายในแนวดิ่ง Vertical Integration โดยโฟกัสกับการลงทุนของ N15 Technology ซึ่งเป็นการขยายธุรกิจครอบคลุมธุรกิจบริหารจัดการขยะตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำที่มีความเกี่ยวข้องกันในห่วงโซ่อุปทาน เพื่อเสริมการเติบโตในระยะยาอีกทางหนึ่งด้วย
ส่วนบรรยากาศของการท่องเที่ยวในประเทศไทยที่ฟื้นตัวอย่างชัดเจนนั้นทาง SKE ประเมินว่าถือเป็นอีกประเด็นบวกต่อการดำเนินงานของบริษัท โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติอัดแรงดันสูง (NGV) ให้ขยายตัวได้ดียิ่งขึ้น หลังความต้องการเติม NGV ใช้เป็นเชื้อเพลิงในการเดินทางในส่วนของรถยนต์สาธารณะ อาทิ แท็กซี่ ฯลฯ และเป็นแรงหนุนภาพรวมของ SKE ให้เติบโตในระยะยาวเพิ่มเติม
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม