#SKE #ทันหุ้น - SKE ปิดดีลร่วมพาร์ตเนอร์เจ้าของบ่อขยะ หนุนซัพพลายทำเชื้อเพลิงอัดแท่งพุ่งแตะ 600-700 ตันต่อวัน บิ๊ก"จักรพงส์ สุเมธโชติเมธา" ใส่เกียร์ลุยปั้น RDF ป้อนโรงปูนซีเมนต์เต็มพิกัดช่วง Q3 นี้ เสริมพอร์ตรับทรัพย์เพิ่ม แถมเปรยครึ่งหลังปี 2566 ฟอร์มสวย รับ NGVสดใส-ธุรกิจใหม่หนุน แถมยืนเป้าปีนี้รายได้ราว 1 พันล้านบาท

นายจักรพงส์ สุเมธโชติเมธา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สากล เอนเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ SKE เปิดเผยว่า ล่าสุดบริษัทได้มีการบรรลุข้อตกร่วมเป็นพาร์ตเนอร์ต่างๆ ประมาณ 5-6 ราย ซึ่งพาร์ตเนอร์เหล่านี้ล้วนเป็นเจ้าของพื้นที่บ่อขยะในพื้นที่ใกล้เคียงโรงผลิตเชื้อเพลิงจากขยะ (RDF) ทั้งในจังหวัดสระบุรีและชลบุรี เพื่อเสริมศักยภาพทางด้านวัตถุดิบ (ซัพพลาย) ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ผนึกพาร์ตเนอร์หนุนแกร่ง

ทั้งนี้ ภายหลังจากความร่วมกับทางพาร์ตเนอร์ข้างต้น ทาง SKE จะเป็นผู้สนับสนุนทางด้านอุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆ รวมถึงการจัดส่งซัพพลายไปยังโรงงานต่างๆ ของบริษัท ส่วนพาร์ตเนอร์เหล่านี้จะเป็นเจ้าของพื้นที่ทิ้งขยะ

โดยหากแผนงานต่างๆ ไปตามที่วางไว้ จะส่งผลให้บริษัทมีซัพพลายปรับตัวเพิ่มเป็นประมาณ 600-700 ตันต่อวัน (ความต้องการซัพลายจากโรงผลิต RDF ทั้ง 2 โรงอยู่ที่ 800 ตันต่อวัน) จึงทำให้ความสามารถในการผลิต RDF เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน

บริษัทจะมีการเร่งการผลิตเพื่อส่งมอบตามคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) ในกลุ่มลูกค้าที่ประกอบธุรกิจปูนซีเมนต์ให้เพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่ผลิตและส่ง RDF ให้ลูกค้ากลุ่มข้างต้นเพียง 200 ตันต่อวัน รวมทั้งยังกลายเป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนให้รายได้จากการจำหน่าย RDF เพิ่ม คาดน่าจะได้เห็นความชัดเจนในไตรมาส 3/2566 ตลอดจนยังสนับสนุนแนวโน้มการเติบโตของภาพรวมธุรกิจให้ดีขึ้นตามไปด้วย

ครึ่งหลังสวย

ขณะที่แนวโน้มผลงานครึ่งหลังปี 2566 บริษัทคาดยังมีทิศทางที่ดีขึ้นต่อเนื่อง เพราะจะมีการรับรู้รายได้จาก RDF ที่มากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับความสามารถในการผลิตและออเดอร์ที่ขยายตัว นอกเหนือจาก กลุ่มธุรกิจอัดบรรจุก๊าซธรรมชาติอักแรงดันสูง (NGV) ที่เข้ามาเสริมอีกทางหนึ่ง

อย่างไรก็ดี ในปี2566 บริษัทยังคงเป้ารายได้ไว้ราว 1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ที่ราว 497 ล้านบาท เนื่องจากมีการรับรู้รายได้ธุรกิจ RDF เข้ามาเพิ่มขึ้นอย่าง นอกเหนือ จากธุรกิจในส่วนอื่นๆ ที่อยู่ในเกณฑ์ที่ดี ตลอดจนธุรกิจยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้มีประสิทธิภาพด้วย

นอกจากนี้ บริษัทยังมองหาโอกาสในการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจพลังงานสะอาด พลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือกบนกระแสการทำธุรกิจ Green Economy ที่ทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญ โดยจะเน้นกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจแบบครอบคลุมในแนวดิ่ง Vertical Integration โดยโฟกัสกับการลงทุนของ N15 Technology ซึ่งเป็นการขยายธุรกิจครอบคลุมธุรกิจบริหารจัดการขยะตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำที่มีความเกี่ยวข้องกันในห่วงโซ่อุปทาน เพื่อเสริมการเติบโตในระยะยาวเพิ่มเติม

ท่องเที่ยวหนุน

ขณะเดียวกันจากภาพรวมการท่องเที่ยวในประเทศไทยที่ฟื้นตัวอย่างชัดเจนนั้นทาง SKE ประเมินว่าถือเป็นอีกประเด็นบวกต่อการดำเนินงานของบริษัท โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติอัดแรงดันสูง (NGV) ให้ขยายตัวได้ดียิ่งขึ้น หลังความต้องการเติม NGV ใช้เป็นเชื้อเพลิงในการเดินทางในส่วนของรถยนต์สาธารณะ อาทิ แท็กซี่ ฯลฯ และเป็นแรงหนุนภาพรวมของ SKE ให้เติบโตต่อเนื่อง

ส่วนเรื่องที่ว่าที่รัฐบาลใหมีแนวทางคิดจะปรับเปลี่ยนเกี่ยวกับเรื่อง “ค่าความพร้อมจ่าย” ที่รัฐจ่ายให้กับโรงไฟฟ้านั้นSKE มองไม่น่ามีผลกระทบต่อธุรกิจของบริษัท เนื่องจากปัจจุบันMKP ถือเป็นโรงไฟฟ้าขนาดเล็กไม่มีการให้ "ค่าความพร้อมจ่าย" ดังเช่นโรงไฟฟ้าขนาดกลางและขนาดใหญ่ เช่น SPP, IPP แต่อย่างใด