#ASEFA #ทันหุ้น- ASEFA ส่งซิกครึ่งปีหลัง 2566 ผลงานโตกว่าครึ่งปีแรก คาดปริมาณงานจะเริ่มออกมามากขึ้นทั้งงานภาครัฐ-เอกชน หลังมีการจัดตั้งรัฐบาล เชื่อสามารถเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนได้มาก ปัจจุบันมีงานในมือ 3,437 ล้านบาท คาดรับรู้รายได้ปีนี้ 70-80% หนุนผลงานรวมเติบโต 10-15% ตามแผน จากปีก่อนมีรายได้รวม 3,090.66 ล้านบาท

นายวิชัย สุนทรวุฒิกุล กรรมการบริหาร และผู้จัดการฝ่ายอาวุโสสำนักบริหาร บริษัท อาซีฟา จำกัด (มหาชน) หรือ ASEFA เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสที่ 3 และ 4 ปี 2566 คาดว่ายังเป็นทิศทางที่ดีต่อเนื่อง โดยปกติในช่วงครึ่งปีหลังยอดขายจะเติบโตมากกว่าครึ่งปีแรก

สำหรับปัจจัยบวกในปีนี้คาดว่ามาจากงานในมือ (Backlog) ที่บริษัทมีอยู่ที่ 3,437 ล้านบาท แบ่งออกเป็นงาน Services Integrated Eng / After Sales Services 44% ,งาน Manufacturing Product 43% และงาน Supplied & Distributed 13%  โดยบริษัท คาดว่าจะรับรู้รายได้ปีนี้ประมาณ 70-80% สำหรับส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ในปี 2567

โดยบริษัทยังเดินหน้าหางานใหม่ๆ เข้ามาเติมพอร์ต Backlog ในมือ ทั้งส่วนของงานภาครัฐและงานภาคเอกชน แม้ว่าช่วงที่ผ่านมางานอาจจะชะลอไปบ้าง แต่ก็ยังมีเข้าร่วมประมูลงานใหม่ๆ ซึ่งในช่วงที่เหลือของปีนี้ ก็คาดว่าจะเข้าร่วมประมูลงานเข้ามาเพิ่มต่อเนื่อง

ประกอบกับปัจจุบันประเทศไทยได้มีการจัดตั้งรัฐบาลเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งก็จะส่งเสริมความมั่นใจของนักลงทุน ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงนักลงทุนในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งหลังจากนี้น่าจะเห็นการลงทุนมากขึ้น

*ผลงานโตตามเป้า

โดยบริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ปี 2566 ประมาณ 10-15% เมื่อเทียบกับปี 2565 บริษัทมีรายได้รวม 3090.66 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 103.33 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้หลักยังมาจาก งาน Services Integrated Eng / After Sales Services เนื่องจากเป็นสัดส่วน Backlog ที่มากที่สุด รองลงมาได้เเก่ งาน Manufacturing Product

ในช่วงครึ่งปีแรก 2566 บริษัทเติบโตประมาณ 20% โดยมีรายได้รวม 1,659.09 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 358.92 ล้านบาท หรือ 27.61% มีกำไรสุทธิจำนวน 67.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.61 ล้านบาทหรือ 38.05%

สำหรับแนวโน้มอุตสาหกรรมปี 2566-2567 มองว่าความผันผวนของราคาแมททีเรียล(Material) น่าจะเริ่มดีขึ้น เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านๆ มาเนื่องจากประสบปัญหาต่างๆ จากสถานการณ์ โควิด-19 โดยการแข่งขันในปัจจุบัน ของธุรกิจสวิตช์บอร์ดไฟฟ้า มีการแข่งขันที่รุนแรงมากเนื่องจากมีคู่ค้าหลากหลาย และสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันก็มีการกดดันทางด้านราคา เนื่องจากปัจจุบันมีซัพพลายล้นตลาดทำให้มีการแข่งขันรุนแรง แต่บริษัทมี Economies of scale ที่ดีซึ่งถือว่าได้เปรียบคู่แข่ง และบริษัทได้สร้างจุดแข็งที่มีคุณภาพมากกว่า

*ขยายฐานต่อยอด

ซึ่งบริษัทยังมีเป้าหมายกลยุทธ์ทางธุรกิจการเติบโตไปกับคู่ค้า ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนทางด้าน M&A การขยายตัวแทนจำหน่าย เพิ่มผลิตภัณฑ์ๆ และการขยายไปยังตลาดต่างๆ เพิ่มขึ้น และนำเอาเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนช่วยในการดำเนินธุรกิจ นอกจากนี้บริษัทยังเน้นการบริหารจัดการคน ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

อนึ่งบริษัทเป็นผู้ประกอบธุรกิจผลิต จำหน่าย และติดตั้งผลิตภัณฑ์กระจายและส่งจ่ายไฟฟ้า ซึ่งประกอบด้วยสินค้าหลักคือ สวิตช์บอร์ดไฟฟ้าแรงดันปานกลาง แรงดันต่ำ และแผงควบคุมระบบไฟฟ้า รวมถึงบริการจัดหา จัดจำหน่ายอุปกรณ์ในระบบไฟฟ้า ตั้งแต่แหล่งจ่ายไฟฟ้าจนถึงอุปกรณ์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าปลายทาง

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1