#RPH #ทันหุ้น - RPH มองแนวโน้ม Health Care ไตรมาส 4/2566 ยังเด่น รับอานิสงส์ทำการตลาดออนไลน์ หนุนคนไข้สนใจดูแลและรักษาสุขภาพเพิ่ม มองอัตราครองเตียงโค้งท้ายอาจลดลงเล็กน้อย จากไตรมาสก่อนที่ระดับ 80% มั่นใจผลงานปี 2566 โตเข้าเป้า 10-20% เดินหน้าขยายฐานคนไข้ต่างชาติต่อเนื่อง เนื้อหอมเอเจนซีรุมจีบ

นพ.ธีระวัฒน์  ศรีนัครินทร์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลราชพฤกษ์ จำกัด (มหาชน) หรือ RPH เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจ Health Care ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2566 มองว่ายังคงมีการขยายตัวที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน แต่อาจลดลงบ้างเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าเนื่องจากไตรมาส 3 จะเป็นไฮซีซันของธุรกิจ ซึ่งเป็นปกติของทุกปี

*อัตราครองเตียงสูง

โดยอัตราการครองเตียง (Occupancy Rate) ในช่วงเดือนตุลาคม 2566 ยังคงอยู่ในระดับที่ดีอยู่ แต่อาจชะลอตัวลงจากเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2566 อยู่ที่ประมาณ 78-80% ของจำนวนเตียงทั้งหมดที่เปิดใช้ จำนวน 185 เตียง ซึ่งกลุ่มคนไข้ที่เข้าใช้บริการทางการแพทย์ของบริษัทยังคงเป็นชาวไทยเป็นหลัก มีสัดส่วนมากกว่า 95% ขณะที่กลุ่มชาวต่างชาติปัจจุบันยังคงต่ำกว่า 5% ของจำนวนคนไข้ที่ใช้บริการทางการแพทย์ของบริษัททั้งหมด

ขณะที่การทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์มาอย่างต่อเนื่อง (Digital Marketing) เพื่อสร้างการรับรู้ และให้ข้อมูลกับกลุ่มผู้ที่มีความสนใจในช่วงที่ผ่านมา บริษัทได้รับการตอบรับที่ดีเกินคาด ส่งผลให้ในช่วงไตรมาส 2/2566 ที่ผ่านมา แม้จะยังไม่เข้าไฮซีซันเต็มที่ดีนัก แต่อัตราการให้บริการดูแลและรักษาสุขภาพและความงามของบริษัทปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น และต่อเนื่องมายังไตรมาส 3/2566 โดยในปี 2566 บริษัทได้ใช้งบลงทุนสำหรับการทำการตลาดไว้ที่ประมาณ 10 ล้านบาท ในส่วนนี้ถูกใช้ไปหมดแล้ว และในปีหน้าอาจใช้งบที่ลดลง

ทั้งนี้บริษัทยังคงให้ความสนใจและเดินหน้าในการขยายตลาดและขยายฐานคนไข้ต่างชาติอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาได้รับความสนใจจากเอเจนซีต่างประเทศเข้ามาติดต่อแล้วหลายราย มองว่าจะเป็นโอกาสในการให้บริการกับคนไข้ต่างชาติได้เพิ่มมากขึ้น ช่วงสร้างการเติบโตที่ดีและแข็งแกร่งให้กับผลการดำเนินงานบริษัทในอนาคตได้ เพียงแต่ว่าในปี 2566 ยังเป็นเพียงจุดเริ่มต้น จึงยังไม่เห็นภาพการขยายตัวที่ชัดเจนนัก

*รัฐหนุนเวลเนสฮับ

การที่ภาครัฐสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) และการวางเป้าหมายให้ไทยเป็น Wellness Hub ทำให้คาดการณ์อัตราการเติบโตของตลาดการดูแลรักษาสุขภาพในประเทศไทย (Wellness Market Size in Thailand) เฉลี่ยในปี 2565-2568 จะอยู่ที่สูงกว่า 78.3% ต่อปี การที่ RPH ได้รับมาตรฐานระดับสากล ทั้ง GHA และ AACI ถือเป็นการยกระดับการให้บริการด้านการแพทย์ของไทยแก่ผู้เดินทางท่องเที่ยวเพื่อการรักษา สร้างความเชื่อมั่นในการรักษาสุขภาพให้กับทั้งคนไทยและต่างชาติ

นอกจากนี้ บริษัทยังวางแผนการขยายการลงทุนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการดูแลและให้บริการแก่คนไข้ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งเพิ่มศูนย์บริการดูแลรักษาโรคเฉพาะทางให้ครอบคลุมและหลากหลายมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันบริษัทวางแผนที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพของโรงพยายามอาคารเดิม เพื่อใช้เป็นศูนย์ให้บริการทางการแพทย์ประเภทความงาม (ปรับปรุงพื้นที่ชั้น 5 อาคารเดิม) รวมถึงศูนย์สุขภาพ (Wellness Center) ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของการออกแบบ คาดว่าเปิดให้บริการอย่างเร็วที่สุดในปลายปี 2567 เป็นต้นไป

ส่วนความคืบหน้าการสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ ขนาด 100 เตียง เพื่อรองรับผู้ป่วยเฉพาะส่วนของประกันสังคมและผู้ป่วยใช้สิทธิ์ประกันชีวิต ที่มีวงเงินไม่สูงนักให้ได้เพิ่มมากขึ้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างการออกแบบและหาผู้รับเหมา คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2568 เป็นต้นไป การลงทุนในครั้งนี้ยังสามารถขยายพื้นที่เตียงได้สูงสุดเป็น 300 เตียง รองัรบการขยายตัวของคนไข้ที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคตได้อีกด้วย

จากปัจจัยข้างต้นที่กล่าวมา ทำให้บริษัทยังคงเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวมปีนี้จะเติบโตไม่น้อยกว่า 10-20% จากปีก่อนที่ 1,340.26 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้มีรายได้รวมที่ระดับ 557.36 ล้านบาท สำหรับการประกาศงบผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3/2566 คาดว่าจะมีการแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2566 ในช่วงเช้า

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon