#UTP #ทันหุ้น - UTP มองปริมาณจำหน่ายไตรมาส 4/2566ปรับตัวดีขึ้นกว่าไตรมาสก่อน และจะกลับไปพีคสุดในไตรมาสแรกตามการเข้าสู่ไฮซีซัน รับยอดขายปี 2566 อาจแตะที่ระดับ 4.2พันล้านบาท ย่อตัวจากปีก่อน ตามราคาจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ปรับตัวลดลงมากว่า 20% จากปีก่อน
นายวัชชระ ชินเศรษฐวงศ์ กรรมการ บริษัท ยูไนเต็ด เปเปอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ UTP ผู้ผลิตและจำหน่ายกระดาษคราฟต์ เปิดเผยว่า แนวโน้มภาพรวมธุรกิจในช่วงไตรมาส 4/2566 มองว่าปริมาณการจำหน่ายและยอดขายในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้มีแนวโน้มที่จะมีการปรับตัวที่ดีขึ้นกว่าเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2566 ที่ตามปกติจะเป็นโลว์ซีซันของธุรกิจ และยอดขายจะกลับมามีการขยายตัวสูงที่สุดในไตรมาส 1หรือช่วงเทศกาลตรุษจีนของทุกปี
*รายได้แตะ 4.2 พันล.
ในช่วงที่เหลือของปี 2566บริษัทจะหันไปมุ่งเน้นจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทำผิวกล่อง (Kraft Liner Board) เพิ่มมากขึ้น เพราะเป็นกลุ่มที่ให้อัตรากำไรขั้นต้นที่ดีกว่ากระดาษทำลอนลูกฟูก (Corrugating Medium) ซึ่งมีการแข่งขันทางราคาที่ค่อนข้างสูง และในตลาดอาเซียนยังตกอยู่ในสภาวะอุปทานส่วนเกิน (Over Supply) โดยบริษัทวางเป้าหมายจะเพิ่มสัดส่วนการขายกลุ่มสินค้า Kraft Liner Board ให้เพิ่มเป็น 50% ของยอดขายรวม
ทั้งนี้ บริษัทยังคงเป้าหมายปริมาณการจำหน่ายทั้งปี 2566 ไว้ที่ไม่น้อยกว่า 240,000 ตันต่อปี และยังคงยอดขายทั้งปีนี้ไว้แตะที่ระดับไม่น้อยกว่า 4,000-4,200 ล้านบาท ซึ่งปริมาณการจำหน่ายในช่วง 9เดือนแรกของปี 2566 เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 180,000 ตันต่อปี หรือเฉลี่ยอยู่ที่ราว 20,000 ตันต่อปี
อย่างไรก็ดีต้องยอมรับว่าการเติบโตของรายได้จากการจำหน่ายในปีนี้อาจไม่เติบโตเมื่อเทียบเท่ากับปีก่อน เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้กำลังซื้อในช่วงที่ผ่านมายังคงชะลอตัวลง
แม้ว่าราคารับซื้อเศษกระดาษในประเทศในช่วงไตรมาส 3/2566 จะมีการปรับตัวลดลงมาทรงตัวอยู่ที่ระดับ 5,000บาทต่อตัน จากในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ที่ราว 5,850 บาทต่อตัน ส่งผลทำให้บริษัทมีความจำเป็นที่จะต้องปรับราคาจำหน่ายลดลงมาเพื่อให้สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน โดยในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2566ราคาจำหน่ายบริษัทปรับลดลงมากกว่า 20%เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน
*อัพกำลังผลิต
ปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตกระดาษทำลอนลูกฟูก (Corrugating Medium) อยู่ที่ประมาณ 270,000 ตันต่อปี และมีอัตราการใช้กำลังผลิตอยู่ที่เฉลี่ยกว่า 90%ซึ่งมองว่ายังคงอยู่ในระดับที่ดีอยู่ ขณะที่สัดส่วนของ Kraft Liner Board ในตอนนี้อยู่ที่ระดับประมาณ 40% ของยอดขายรวม คาดว่าภายในช่วงที่เหลือของปีนี้เป็นต้นไปจะผลักดันสัดส่วนให้เพิ่มเป็นไม่น้อยกว่า 50% ของยอดขายรวมได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
ความคืบหน้าการลงทุนเพื่อกำลังผลิตในส่วนของการเตรียมเยื่อกระดาษนั้น ปัจจุบันแล้วเสร็จเรียบร้อยแล้วและอยู่ในช่วงของการทดสอบประสิทธิภาพการผลิต (Test Run) มาแล้วประมาณ 3 เดือน มองว่าในช่วงนี้จะช่วยทำให้เยื้อกระดาษที่ได้มีความสะออดและบริสุทธิ์มากขึ้น ทำให้คุณภาพของกระดาษดีขึ้นและให้ราคาที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์กระดาษเดิมที่บริษัทมี และเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีดีมานด์สูง ทำให้คาดว่าจะเข้ามาช่วยหนุนการปรับตัวที่ดีขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้นในอนาคต
*ลุ้นปีหน้าฟื้น
"จากนี้คงต้องรอดูปัจจัยทางเศรษฐกิจโลกว่าในปี 2567จะมีการปรับตัวหรือฟื้นตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้มากน้อยแค่ไหน เมื่อมีการคลายตัวที่ดีขึ้น ก็จะสะท้อนไปถึงกำลังซื้อและความต้องการใช้งานกระดาษทำลอนลูกฟูกที่สูงขึ้นตามมา แต่ในปีนี้ต้องยอมรับว่าเป็นปีที่ค่อนข้างมีความท้าทายจากหลายปัจจัย ทั้งในเรื่องของราคาเศษกระดาษที่ปรับตัวอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงราคาจำหน่ายที่ลดลง ทำให้รายได้จากการขายปีนี้อาจแตะที่ระดับราว 4.2 พันล้านบาท แต่ก็คาดหวังว่าในปีหน้าทุกอย่างจะดีขึ้น" นายวัชชระ กล่าว
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม