#CCP #ทันหุ้น – CCP แนวโน้มปี 2567 เติบโตต่อเนื่อง เตรียมรับเครื่องจักรใหม่มูลค่า 100 ล้านบาท ช่วยขยายกำลังการผลิต ลดต้นทุนแรงงาน และมีรายได้ธุรกิจคลังสินค้าที่จะรับรู้เต็มปี ขณะที่ปัจจุบันมี Backlog กว่า 1,800 ล้านบาท จะทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่อง และคาดการณ์แนวโน้มไตรมาสสุดท้าย ยอดขายผลิตภัณฑ์คอนกรีตเพิ่มขึ้นจากความต้องการใช้สูง

นายอาทิตย์ ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด (มหาชน) หรือ CCP ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูปที่เกี่ยวข้องกับงานสาธารณูปโภคครบวงจร เปิดเผยว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสที่ 4/2566 คาดว่าจะเติบโตได้ต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 3/2566 เนื่องจากจะมียอดขายที่ดีขึ้นในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม เพราะหลังจากฤดูฝน หลายโครงการมีการหยุดชะงักการก่อสร้างและเริ่มกลับมาดำเนินงานได้ตามปกติ โดยคาดว่าผู้ประกอบการจะมีการเร่งการก่อสร้างมากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์คอนกรีตมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น

*ตุนแบ็กล็อก 1,800 ล.

นอกจากนี้บริษัทยังมีงานในมือ (Backlog) ปัจจุบันที่ประมาณ 1,700-1,800 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ในช่วงที่เหลือของปี ประมาณ 70-80 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งไม่รวมกับยอดขายดีเข้ามาเพิ่มเติม โดยบริษัทประเมินว่าภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2566 นี้ถือว่ามีการเติบโตได้ดีมากขึ้น ทั้งธุรกิจหลัก และธุรกิจใหม่ที่บริษัทเพิ่งเริ่มให้บริการ ได้เเก่ กลุ่มโลจิสติกส์ เพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการคลังสินค้าด้วยระบบที่ทันสมัยในเขตปลอดอากร (Free Zone)

โดยก่อนหน้านี้บริษัทได้ขยายธุรกิจไปสู่กลุ่มโลจิสติกส์ ซึ่ง CCP ได้จัดตั้ง บริษัท ชาลี ท็อป โลจิสติกส์ โซลูชั่น จำกัด มูลค่าลงทุนรวม 400 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนการถือหุ้น แบ่งเป็น CCP ถือหุ้น 60% และบริษัท ปลาวาฬ โลจิสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (WHALE LOGISTICS GROUP) ถือหุ้น 40% เพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการคลังสินค้าด้วยระบบที่ทันสมัยในเขตปลอดอากร (Free Zone)

*รุกบริการคลังสินค้า

จากการมองเห็นโอกาสการเติบโตของแนวโน้มความต้องการใช้คลังสินค้าในเขตปลอดภาษีที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในส่วนของผู้ให้บริการที่มีความเชี่ยวชาญและเป็นมืออาชีพยังมีไม่เพียงพอ ประกอบกับการผลักดันของภาครัฐในโซน EEC ที่เป็นยุทธศาสตร์สำคัญของธุรกิจนำเข้า-ส่งออก ผนวกกับปัจจัยเสริมของการลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาในประเทศอาเซียนมากขึ้น ซึ่งได้เปิดให้บริการไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย

โดยการลงทุนคลังสินค้าในครั้งนี้จะแบ่งออกเป็น 2 เฟส ใกล้ที่ดินนิคมแหลมฉบัง ได้แก่ เฟส 1 มีพื้นที่คลังสินค้า 2,800 ตารางเมตร และเฟส 2 พื้นที่ 28,800 ตารางเมตร

ปัจจุบันบริษัทได้ก่อสร้างแล้วเสร็จ และให้บริการในเฟสที่ 1 ซึ่งในปี 2567 จะมีการขยายโครงการเพิ่มเติม และสามารถรับรู้รายได้เข้ามาเต็มปี สำหรับเฟสที่ 2 คณะกรรมการบริษัทประเมินว่าการเข้าไปสู่ธุรกิจใหม่นั้น ต้องรอดูผลการดำเนินงานก่อนที่ราว 1 ปี ว่าผลตอบแทนจะเป็นอย่างไรถึงจะเริ่มดำเนินการในเฟสต่อไป

*ปี 67 ปริมาณงานสูง

สำหรับแนวโน้มของธุรกิจในปี 2567 บริษัทมองว่าจะเติบโตได้ดีต่อเนื่อง เพราะคาดว่าจะมีงานนิคมอุตสาหกรรมที่เพิ่มเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในกลุ่มรถไฟฟ้า ซึ่งจะต้องเร่งก่อสร้างเพื่อส่งมอบงานให้เป็นไปตามกำหนดเวลาที่วางไว้ รวมถึงภาครัฐเดินหน้าก่อสร้างงานเมกะโปรเจ็กต์ทั่วประเทศ งานโครงสร้างพื้นฐานในโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งจะส่งผลดีต่อยอดขายของบริษัท

นอกจากนี้บริษัทยังมีการขยายการลงทุนเพิ่มเครื่องจักรในช่วงที่ผ่านมามูลค่า 100 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเตรียมรับเครื่องจักรใหม่ในปี 2567 ซึ่งจะเข้ามาเพิ่มขยายกำลังการผลิต และลดต้นทุนแรงงาน พร้อมเดินหน้าประมูลงานภาครัฐ-เอกชน จากทั่วประเทศ ทำให้ผลประกอบการของบริษัทให้มีการเติบโตอีกมาก

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1