> SET > AOT

24 พฤศจิกายน 2023 เวลา 11:31 น.

AOT กระเตื้อง หลังถูกเทขายหนัก โบรกมองราคาน่าสน จับจังหวะซื้อ

#AOT #ทันหุ้น - การซื้อขายหุ้น AOT ฟื้นตัวกลับมายืนในแดนบวกจากราคาปิด 62.25 บาทเมื่อวันที่ 23 พ.ย. ราคาหุ้นกระเตื้องขึ้นมาเคลื่อนไหวในช่วง 62.50-63.50 บาท และเมื่อเวลา 11.08 บาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 62.75 บาท +0.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,636 ล้านบาท


บล.กรุงศรีพัฒนสิน ระบุว่า AOT เตรียมขึ้นค่าธรรมเนียมผู้โดยสาร มีผล 1 เม.ย.24 เป็นต้นไป โดยดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ AOT เผยได้นำระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง (Common Use Passenger Processing Systems: CUPPS) มาให้บริการ ณ 6 ท่าอากาศยานของ AOT เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ และอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร AOT เตรียมปรับขึ้นค่าธรรมเนียมผู้โดยสาร ขาออกในประเทศ 100 > 130 ขาออกระหว่างประเทศ 700 > 730 บาท/คน ตั้งแต่ 1 เม.ย.23 เป็นต้นไป เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนอัตราค่าบริการที่เพิ่มขึ้นจากการนำระบบ CUPPS มาใช้


ความเห็นและคำแนะนำ

เราอยู่ระหว่างสอบถามข้อมูลเพิ่มจากทาง IR AOT เกี่ยวกับต้นทุนที่จะเพิ่มขึ้นจากการให้บริการดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตาม หากอิงจากปริมาณผู้โดยสารขาออก (ทั้งในและระหว่างประเทศ) ปี FY24F ที่เราคาดที่ 70 ล้านราย การปรับขึ้นค่าธรรมเนียมจะทำให้ AOT มีรายได้เพิ่มราว 2.000 ลบ./ปี


ดังนั้น เบื้องตันหากยังไม่รวมต้นทุนที่เพิ่ม เราคาดประมาณการปี FY24F ของเราจะมี Upside จากรายได้ที่เพิ่ม (หลังหักภาษี) ราว 1.6 พันลบ. หรือคิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นส่วนเพิ่มประมาณ 0. 11 บาท/หุ้น ถ้าคิดที่ค่าเฉลี่ย PE ในอดีตของ AOT ที่ 32x จะเท่ากับมูลค่าส่วนเพิ่มราว 3.50 บาท/หุ้น บล.กรุงศรีพัฒนสินมองเป็น Positive ต่อ AOT จากผลประกอบการและราคาเป้าหมาย (TP24F) ที่มี Upside จากการปรับขึ้นค่า PSC ข้างต้น ซึ่งจะช่วยชดเชย Downside จากยอดนักท่องเที่ยวจีนที่มีแนวโน้มฟื้นตัวช้กว่าคาดที่เป็นปัจจัยกดดันหุ้นในชวงสัปดาห์นี้


เราคงคำแนะนำ Buy ราคาเป้าหมาย (TP24F) ที่ 85.25 บาท ประเมินด้วยวิธี DCF (WACC 6.3% L-T 3% หรือเทียบเท่า PE'24F ที่ 46x)


บล.บัวหลวงระบุว่าการขึ้นค่าโดยสารขาออกที่ AOT ยังอยู่ระหว่างการยื่นเอกสารและกระบวนการขออนุมัติจากกระทรวงคมนาคม ยังไม่ได้อยู่ในประมาณการของเรา หากใช้สมมติฐานปีงบประมาณ 2025 (ต.ค. 24 - กย. 25) การเพิ่มขึ้น 4-5% ของ PSC จะเป็น 6% อัพไซด์กำไรปี 2025และมากกว่านั้นตามจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปี


อย่างไรก็ตาม บล.บัวหลวงได้ศึกษาการขึ้นราคา PSC ของสนามบินในภูมิภาคเอเชียในช่วงปีที่ผ่านมา มีการปรับขึ้นราคา 10% ดังนั้น บล.บัวหลวงมองว่ายังมีอัพไซด์ให้กับ AOT


View From Fundamental:

บล.บัวหลวงยังคงชอบ AOT มากที่สุดในกลุ่มท่องเที่ยว ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวการท่องเที่ยว การเพิ่มขึ้นของเที่ยวบินและสายการบิน คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 85 บาท


บล.ธนชาตมองการขึ้นค่าธรรมเนียมเป็นผล “บวก” ต่อ AOT จากรายได้ค่าโดยสารที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาหุ้นปรับตัวลดลงสะท้อนความกังวลมามากแล้ว เรายังมอง AOT เป็น Top pick ที่ได้ประโยชน์โดยตรงจากการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวไทย และการสิ้นสุดมาตรการช่วยเหลือ คาดกำไรทำ New High ในปีหน้า พร้อมมี Upside จากโครงการ Airport City  คงคำแนะนำ “ซื้อ” AOT พื้นฐาน 90 บาท


บล.เอเอสแอล มองว่าราคารับข่าวลบไปพอสมควรแล้ว แนะนำว่าเป็นจังหวะซื้อ AOT หลังวานนี้(23 พ.ย.) มีแรงขายจาก Program trade กว่า 4.6 พันล้านบาท โดยราคาหุ้น AOT ปรับลดลงต่อเนื่อง 3 วันติดต่อกัน นับตั้งแต่วันที่ 21-23 พ.ย. 2566 มาจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ 1) กรณีสายการบินนยกเลิกตารางบิน (Slot) เข้าประเทศไทย เพราะไม่มีความต้องการ (ดีมานด์) เดินทางสูงมากพอ โดยข้อมูลจากกองเศรษกิจท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยวทรงตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 8,000-9,000 คนต่อวันหลังช่วง Golden week และเริ่มขยับขึ้นเป็น 10,000-11,000 คนต่อวัน ในเดือนพฤศจิายนนี้ ถือว่าอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมาย 2) ผลประกอบการของ AOT ในปีงบประมาณ 256 ไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ และ 3. การปรับลดตัวเลขประมาณการโดยสารในปี 2567 ลง โดย Refinitiv consensus ให้ราคาเป้าหมายเฉลี่ย AOT ที่ 78.82 บาท อัพไชด์ 26.62% จากทั้งหมด 18 โบรกเกอร์


บล.เอเอสแอลแนะนำ ซื้อระยะกลาง-ยาว เนื่องจากแนวโน้มผลประกอบการปี 67 ยังเติบโตตามจำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากจีนที่ภาครัฐมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ขณะที่มีการขยาย minimum guarantee ของ King Power มองว่ากระทบกระแสเงินสดไม่มาก ซึ่งปกติ AOT จะบันทึกรับรู้รายได้ตามจำนวนที่ต้องได้รับปกติในบัญชีอยู่แล้ว เพียงแต่เงินรายได้จริงจะเข้ามาช้ากว่าปกติจากการเลื่อนชำระ โดยคาดว่าผลประกอบการจะกลับไปสู่ช่วง pre-COVID ในปี 68


บล.ซีจีเอสซีไอเอ็มบี ระบุว่าเมื่อวันที่ 23 พ.ย.ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลดลงมากดดันจากหุ้น AOT กังวลสายการบินจีนยกเลิกสล็อตบิน นักท่องเที่ยวฟื้นช้ากว่า และวีซ่าฟรีไม่ช่วย กังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีน ผลกระทบจากเหตุ Paragon ที่คนจีนเสียชีวิต ส่งผลให้เกิดการยกเลิกการบินของนักท่องเที่ยวจีนในปีนี้


การที่นักท่องเที่ยวจีนเข้ามาท่องเที่ยวในไทยน้อยกว่าคาด ส่งผลกระทบต่อหุ้นท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์ว่า ประเทศไทยจะมี

- นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางมาเยือน 25-30 ล้านคนในปี 2023 และ เพิ่มขึ้นเป็น 35 ล้าน คนในปี 2024 (+17-40%)

- นักท่องเที่ยวภายในประเทศจะอยู่ที่ 160 ล้านคน-ครั้งในปี 2023 และ 200 ล้านคน-ครั้งในปี 2024


โดย ในเดือน ก.ย. 2023 จำนวนท่องเที่ยวชาวจีน 285 ล้านคน คิดเป็น 33% ของ 852 ล้านคน ในเดือน ก.ย. 2019 ซึ่งรองว่าการ ททท. กล่าวว่าสาเหตุหลักที่ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนฟื้น ตัวช้าน่าจะเป็นเพราะอุปสงค์การท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวจีนอ่อนตัวลง (รัฐบาลจีนพยายามส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศเช่นกัน) บล.ซีจีเอสฯ มองว่าเรื่องนี้ไม่ใช่สาเหตุหลักที่ทำให้นักท่องเที่ยวจากจีนฟื้นตัว


ทั้งนี้ เชื่อว่าเหตุกราดยิงที่ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอนช่วงต้นเดือนต.ค. 2023 อาจทำจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยช่วง 4Q23 ไม่เพิ่มขึ้นมากนัก และ ถึงแม้ว่าจะมีมาตรการยกเว้นวีซ่า ชั่วคราวให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีน (ตั้งแต่ 25 ก.ย. 2023 ถึง 29 ก.พ. 2024) แต่จำนวนนักท่องเที่ยวตั้งแต่เดือนต.ค. 2023 ยังอยู่ที่เฉลี่ย 9,500 คน/วันเทียบกับ 30,123 คน/วันในปี 2019



ททท. คาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนอยู่ที่ 4 ล้านคนในปี 2023 และ 8.2 ล้านคนในปี 2024 แต่เรามองว่าเป้าหมายนี้ค่อนข้างท้าทาย


มุมมองของบล.ซีจีเอสฯ คาดว่านักท่องเที่ยวจากจีนน่าจะอยู่ที่ 3.6 ล้านคนในปี 2023 และ 4.5 ล้านคนในปี 2024 สำหรับสถิตินักท่องเที่ยวชาวต่างชาติโดยรวม ยังคงประมาณการปีนี้อยู่ที่ 27 ล้านคน แต่ปรับลดประมาณการปีหน้าจาก 36 ล้านคนเหลือ 32 ล้านคน


มุมมองต่อหุ้นกับผลกระทบของจีน

AOT : เราเชื่อว่า AOT น่าจะได้รับผลกระทบจากการที่สถิตินักท่องเที่ยวชาวจีนมีจำนวนน้อยกว่าคาดมากที่สุดในหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวที่เราทำการศึกษา นอกจากนี้ เรื่อง การปรับขึ้นค่าบริการผู้โดยสารขาออก (PSC) ยังไม่แน่นอนเพราะต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาล


CENTEL : นักท่องเที่ยวชาวจีนมีสัดส่วนประมาณ 8% ของจำนวน room night ของ CENTEL ใน 1H23 (vs. 15% ในปี 2019) และถึงแม้ว่าธุรกิจโรงแรมจะมีผลประกอบการดี ขึ้น qoq เมื่อเข้าสู่ช่วงไฮ-ซีซั่นใน 4Q23 แต่ธุรกิจอาหาร ยังมีผลประกอบการอ่อนตัว


ERW : คาดว่าสถิตินักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่แข็งแกร่งจะ ส่งผลดีต่อ ERW มากที่สุดเนื่องจากบริษัทไม่มีธุรกิจอาหาร จึงไม่ได้รับผลกระทบจากผลประกอบการที่อ่อนตัวของธุรกิจอาหารเหมือนกับ CENTEL และ MINT โดยมี ERW เป็นหุ้น Top pick ของเรา


บล.ทิสโก้ วิเคราะห์สายการบินจีน มีการยกเลิกสลอตและบริการกราวด์เซอร์วิสที่จองไว้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ หลังนักท่องเที่ยวมีไม่มากพอ  https://youtu.be/wke1Oqy6OCc



อ่านข่าวเกี่ยวเนื่อง 


AOT ประกาศปรับเพิ่มค่าบริการผู้โดยสารขาออกขึ้น 30 บาท เริ่ม 1 เม.ย.67   https://thunhoon.com/article/283618


AOTสยบตระหนก บินโตเก็บเบี้ยทุกเม็ด  https://thunhoon.com/article/283610


เปิด 16 หุ้นเสี่ยงถูกยืม SHORT SELL ผ่าน NVDR มี AOT -DELTA ติดโผ  https://thunhoon.com/article/283627


โบรกมองอย่างไร ? AOT ค่า P/E เกิน 100 เท่า https://thunhoon.com/article/283609




รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X