นายประพัฒน์ รัฐเลิศกานต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANET ผู้ให้บริการเทคโนโลยีดิจิทัลแบบครบวงจร เปิดเผยว่า คาดปี 2567 ผลประกอบการ PLANET จะเทิร์นอะราวด์ และเติบโตก้าวกระโดด หลังบริษัทปรับโครงสร้างองค์กร 1-2 ปีที่ผ่านมา และคาดทิศทางการเติบโตของบริษัทย่อยจะทำผลงานให้กับ PLANET ได้ตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป ขณะที่แผนการดำเนินธุรกิจ ปัจจุบันอยู่ระหว่างทำแผน คาดจะเห็นความชัดเจนต้นปี 2567
** ขึ้นแท่นสู่โฮลดิ้ง
ปัจจุบัน PLANET ปรับโครงสร้างองค์กร เพื่อเตรียมปรับทัพสู่การเป็นโฮลดิ้ง และคาดจะแล้วเสร็จในอีก 2 ปีข้างหน้า ปัจจุบัน PLANET มีบริษัทในเครือประกอบไปด้วย PlanetFiber (แพลนเน็ตไฟเบอร์) ดำเนินธุรกิจการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านโครงข่ายใยแก้วนำแสPlanetCloud (แพลนเน็ตคลาวด์) ดำเนินธุรกิจด้านดิจิทัลเทคโนโลยีPlanetUtility (แพลนเน็ตยูทิลิตี้) ดำเนินธุรกิจด้านการบริหารจัดการน น้ำ และพลังงานทางเลือก PlanetCyber (แพลนเน็ตไซเบอร์) ดำเนินธุรกิจด้านการรักษาความปลอดภัยบนไซเบอร์ และ PlanetEV (แพลนเน็ตอีวี) ดำเนินธุรกิจด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า
ล่าสุดบริษัทได้รับแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการรถยนต์ไฟฟ้า 100% ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการจาก Chongqing SERES group บริษัทผู้นำในการผลิตรถยนต์และรถบรรทุกไฟฟ้า 100% รายใหญ่จากประเทศจีนในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวที่สำคัญของบริษัท ในการที่จะได้นำ แบรนด์ Sokon รถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังได้รับความสนใจและยอมรับจากตลาดในประเทศต่างๆ ทั่วโลก เข้ามา จัดจำหน่าย ดูแลรับประกัน และให้บริการหลังการขาย แก่ลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชนในประเทศไทย
** ปักเป้า 1 พันล้าน
สำหรับแพลนเน็ตอีวี บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2567 ที่ 1 พันล้านบาท จากการเป็นตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการรถยนต์ไฟฟ้า โดยบริษัทส่งมอบPickup Truck ล็อตแรก 30 คัน ให้แก่ บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPLและตั้งเป้าในปี 2567 จะมียอดขาย 1 พันคัน อีกทั้งในปี 2567 จะขยายหัวชาร์จอีวีอีก 1 พันหัวชาร์จ เพื่อกระจายสู่ความต้องการของรถไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นในปี 2567 เป็นต้นไป
ขณะที่สัดส่วนรายได้ของแพลนเนตอีวี คาดจะมาจากการจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า 60% ชาร์จเจอร์ 20% และโซลาร์ 20%
โดยกลุ่มเป้าหมายที่จะเข้าทำตลาด ประกอบด้วย 5 กลุ่มหลัก คือ 1.องค์กรธุรกิจและโรงงานอุตสาหกรรมส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ ที่ต้องการใช้ Carbon Credit และ Carbon Footprint สำหรับเงื่อนไขการซื้อสินค้า 2.กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่ต้องให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติภายใต้แนวคิด ESG และ Climate Change 3. หน่วยงานราชการ เทศบาล องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ต้องเปลี่ยนรถยนต์ไฟฟ้า ทดแทนรถยนต์ที่ใช้น้ำมันตามนโยบายของรัฐบาลที่มีเป้าหมายให้เกิดภาวะคาร์บอนเป็นศูนย์ (Carbon NetZero ) และเพิ่มการใช้พลังงานทดแทน 4.กลุ่มบริษัทให้บริการขนส่งสินค้า (Logistic) ที่ต้องการลดต้นทุน และเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในตลาด Logistic และ 5. กลุ่ม SME และบริษัททั่วไป
** เร่งเครื่องธุรกิจ
ทั้งนี้งบลงทุนของแพลนเน็ตอีวีที่ใช้ขยายจำหน่ายและศูนย์บริการรถยนต์ไฟฟ้า บริษัทลงทุนไปแล้ว 80 ล้านบาท ถือเป็นการลงทุนขนาดใหญ่ และต่อจากนี้คาดจะไม่มีการลงทุนใหญ่แล้ว แต่จะเป็นการเก็บเกี่ยวผลการลงทุนช่วงที่ผ่านมาเข้าพอร์ต ทำให้บริษัทมองทิศทาง PLANET ในปี 2567 จะเข้าสู่ช่วงฟื้นตัวอย่างชัดเจน
“1-2 ปีที่ผ่านมา เราอยู่ในช่วงตั้งไข่ และเริ่มวางรากฐาน การปรับโครงสร้างองค์กร คาดปี 2567 จะเป็นปีที่เราเก็บเกี่ยวผลการลงทุนเข้ามาเต็มปี และแนวโน้มผลการดำเนินงานควรจะกลับมาดี ตามที่เราวางแผนไว้ ส่วนผลงานที่เราขาดทุนเป็นผลจากที่เราเก็บหนี้ไม่ได้ ทำให้ต้องตั้งสำรอง หากเก็บเงินได้ครบยอดที่ตั้งสำรองไว้จะกลับเข้าบัญชีและทำให้เราเป็นบวก”นายประพัฒน์ กล่าว
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
X คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม