> Trendtalk > BBIK

03 มกราคม 2024 เวลา 06:10 น.

เจาะ BBIK

#ทันหุ้น - เริ่มต้นปีได้ดีกับการปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวต้านที่ 1420 ขึ้นไป สำหรับตลาดหุ้นไทย ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1470 แต่มีแนวรับสำคัญที่ 1415 ถ้าย้อนกลับลงไป จะเป็นสัญญาณขายทางเทคนิคลงไปทดสอบ 1400 และ 1370


สำหรับหุ้นที่น่าสนใจวันนี้ คือ BBIK หรือ บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจที่ปรึกษาด้านกลุยทธ์ และการจัดการนวัตกรรมและเทคโนโลยี และธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้อง


ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 66 มีกำไรสุทธิ 75 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.70 บาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ไตรมาสที่ 3 ปี 65 ที่มีกำไรสุทธิ 36 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.36 บาท


ผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 66 มีกำไรสุทธิ 201 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 1.87 บาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ไตรมาสที่ 3 ปี 65 ที่มีกำไรสุทธิ 96 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.97 บาท


นายพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บลูบิค กรุ๊ป (BBIK) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 67 จะเติบโต 50% จากปี 66หลังจากรายได้ข่วงที่ผ่านมาของปีนี้เติบโตทะลุ 100%ไปแล้วปิดทั้งปีน่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 120% แตะ 1.2 พันล้านบาทตามเป้าหมาย ขณะที่คาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% โดยวางงบลงทุนปีหน้าราว 30% ของรายได้ ซึ่งส่วนใหญ่จะนำไปลงทุนในเทคโนโลยี AI พร้อมเตรียมตัวย้ายเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ (SET) ในปี 68 ตามแผนที่บริษัทตั้งไว้


แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจมีทิศทางชะลอตัวกระทบกับการดำเนินงานในแง่ของการลงทุนที่ยากขึ้น รวมถึงการจับจ่ายในภาคธุรกิจของลูกค้าน้อยลง แต่บริษัทได้เตรียมตัวออกไปเปิดธุรกิจในต่างประเทศเพิ่มขึ้น เพื่อการกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ หากตลาดใดตลาดหนึ่งไม่ดีก็ยังสามารถจะเติบโตในตลาดอื่นได้ ขณะที่การเจรจาลงทุนกับบริษัทอื่น ๆ ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยลูกค้ากว่า 90%เป็นลูกค้าในประเทศ


ขณะที่เทคโนโลยีและนวัตกรรมจะมีอิทธิพลต่อการทำธุรกิจและดำเนินชีวิตของมนุษย์มากขึ้นเรื่อยๆ เช่น การพึ่งพาเทคโนโลยี ในชีวิตประจำวัน ลดปัญหาสิ่งแวดล้อม การปรับกระบวนการดำเนินงานเพิ่มความยืดหยุ่น มุ่งเน้นประสิทธิผล และลดความเสี่ยงในธุรกิจ เป็นต้น ด้วยเหตุนี้ภาพรวมของ Technology Landscape ยังคงพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งผ่านการลงทุนด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง สะท้อนผ่านคาดการณ์ของ Gartner ที่ระบุว่าเม็ดเงินลงทุนด้านเทคโนโลยีทั่วโลกจะแตะ 5.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 67 เพิ่มขึ้น 8% จากปี 66


บริษัทได้สรุป 7 Tech Capabilities สำคัญประจำปี 67ที่จะช่วยยกเครื่องการทำธุรกิจโดยแบ่งออกเป็น 4 แกนหลัก เพื่อให้องค์กรสามารถรองรับความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว พร้อมช่วงชิงโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ รวมถึงการวางรากฐานการเติบโตตามหลักความยั่งยืน ESG ที่จะเป็นข้อได้เปรียบทางธุรกิจในระยะยาว ได้แก่


แกนที่ 1 Augmented Intelligence - เป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจแห่งอนาคต ภายใต้แนวคิดการผสานพลัง AI และมนุษย์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้แก่กัน โดยขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีสำคัญที่จะเข้ามาสนับสนุนแนวคิดนี้ คือ Democratization of Generative AI (Gen AI) การเข้าถึงเทคโนโลยี Gen AI ในวงกว้างจะช่วยสร้างโอกาสในแง่มุมต่าง ๆ ให้ธุรกิจ อาทิ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้เร็วมากขึ้น การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน การลดงานซ้ำซาก และยกระดับการเข้าถึงลูกค้าผ่านการหา Customer Insights ด้วย AI เพื่อสร้างคอนเทนต์สำหรับลูกค้าเฉพาะราย นอกจากนี้ Gen AI ยังจะก่อให้เกิดผลกระทบต่ออุตสาหกรรม ทำให้เกิดธุรกิจสตาร์ตอัปใหม่ๆที่อาจเข้ามาดิสรัปธุรกิจรูปแบบดั้งเดิม และองค์กรที่ไม่ได้ใช้ Gen AI จะถูกคู่แข่งที่ใช้งานทิ้งห่างออกไปเรื่อยๆ


แกนที่ 2 Digital Ecosystem - การสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจที่เชื่อมต่อหลายระบบและบริการเข้าด้วยกัน โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความสะดวกสบายให้กับลูกค้า สามารถใช้งานได้หลากหลายผ่านช่องทางเดียว ซึ่งการสร้าง Digital Ecosystem อาทิ Super App ให้สามารถรองรับการเติบโตในอนาคต ต้องให้ความสำคัญกับขีดความสามารถดังต่อไปนี้


แกนที่ 3 Digital Immunity and Trust - เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันและความน่าเชื่อถือให้กับองค์กร รับมือภัยคุกคามไซเบอร์ที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขีดความสามารถที่จะเข้ามาช่วยตอบโจทย์องค์กรยุคใหม่ด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ได้แก่ Generative Cybersecurity AI เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการใช้งาน Generative AI เช่น การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลรั่วไหล และช่องโหว่การโจมตี เป็นต้น โดยใช้ Autoregressive Generative Large Language Models (LLMs) สื่อสาร หาและเพิ่มพูนความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อการสร้าง Security Use Cases นอกจากนี้ Generative Cybersecurity AI ยังสามารถประเมินความเสี่ยง ตรวจสอบ ติดตาม ระบุ ความผิดปกติบนระบบและรายงานผลให้ผู้ใช้งาน / ผู้ให้บริการทราบ ผ่านการโต้ตอบด้วยภาษามนุษย์ (Natural Language) เช่นเดียวกันกับใช้งาน Generative AI เพื่อหาคำตอบที่ต้องการ


ส่วนแกนที่ 4 Sustainability Technologies - เป็นการผสมผสานแนวคิดด้านการใช้เทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืนซึ่งประกอบด้วย 1) เทคโนโลยีที่ออกแบบเพื่อแก้ไขหรือหลีกเลี่ยงปัญหาสิ่งแวดล้อม และ 2) เทคโนโลยีที่สนับสนุนนโยบายด้าน ESG ซึ่งบลูบิคพบเทรนด์ที่น่าจับตามองในปีหน้า ดังนี้

ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคหลังจากปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบจุดต่ำสุดเดิมที่บริเวณ 90.00-91.00 ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านที่ 100 ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 106 แต่มีแนวรับสำคัญที่ 90.00



รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวล่าสุด

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X