#AMA #ทันหุ้น – AMA ชี้ทิศทางธุรกิจปี 2567 ปริมาณการขนส่งปรับตัวเพิ่มขึ้น 10% ทั้งจากธุรกิจเรือ-รถ หลังเพิ่มจำนวนกองเรือปัจจุบัน 9 ลำ น้ำหนักบรรทุกรวม 96,420 เดตเวตตัน ด้านกองรถ 304 คัน แย้มมีงานขนส่งเต็มถึงเดือนกุมภาพันธ์แล้ว มั่นใจ Utilization ไม่ต่ำกว่า 96%

นายพิศาล  รัชกิจประการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาม่า มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ AMA เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจในปี 2567 ในกลุ่มธุรกิจขนส่งน้ำมันพืช และสารเคมีทางเรือ คาดว่าจะมีการเติบโตมากขึ้น จากการที่บริษัทมีการขยายกองเรือเพิ่มจากช่วงปลายปี 2566 ทำให้ปีนี้มีขนาดของกองเรือที่ใหญ่ โดยปัจจุบันกองเรือบรรทุกน้ำมันมีจำนวน 9 ลำ น้ำหนักบรรทุกรวม 96,420 เดตเวตตัน หรือเติบโตขึ้นประมาณ 11-12% ซึ่งจะทำให้ปริมาณการขนส่งในปีนี้เติบโตขึ้นตามไปด้วย และคาดว่า Utilization จะไม่ต่ำกว่าเดิมที่ 96%

** ทิศทางค่าระวาง

ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนในปีนี้ยังอยู่ในกรอบที่ 35 บาทต่อดอลลาร์ บริษัทสามารถบริหารจัดการได้ ประกอบกับราคาน้ำมัน แต่ในช่วงไตรมาสที่ 4/2566 อาจจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นและลดลงบ้าง แต่ทางด้านราคาน้ำมันดิบยังต่ำกว่า 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งหากทรงตัวอยู่ในระดับนี้ทั้งปี จะทำให้ธุรกิจเรือในปี 2567 เติบโตไม่น้อยกว่าปี 2566

สำหรับทิศทางค่าระวางยังใกล้เคียงกับไตรมาสที่ 4/2566 โดยปกติช่วงต้นปีจะเป็นโลว์ซีซันของการขนส่ง แต่ปีนี้มองว่าไตรมาสแรกถือว่าเติบโตได้ดี ซึ่งปัจจุบันมีตารางการขนส่งของธุรกิจเรือไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์แล้ว

ขณะเดียวกันการขนส่งทางบก ภายใต้ บริษัท เอ เอ็ม เอ โลจิสติกส์ จำกัด (AMAL) ผู้บริการขนส่งสินค้าเหลว ประเภท น้ำมันเชื้อเพลิง ไบโอดีเซล และน้ำมันพืช บริษัทมีการเพิ่มจำนวนรถรวม 50 คัน โดยสิ้นปี 2566 บริษัทมีรถรวมทั้งหมด 304 คัน เติบโต 12-13% จากปีก่อน ทำมีการขนส่งรถเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบจากปีก่อน ส่วนรายได้ขนส่งทางรถบริษัทมองว่ามีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นจากปี 2566

** วอลุ่มขนส่งโต

สำหรับขนส่งน้ำมันทางรถ ปัจจุบันรถยนต์ EV เริ่มใช้รถบนถนนมากขึ้น แต่บริษัทมองว่ารถยนต์ EV ที่เข้ามาในประเทศไทยประมาณ 4-5 หมื่นคัน ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจมากนัก ซึ่งคาดว่าต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 8-10 ปี

“บริษัทไม่กังวลในการเพิ่มขึ้นของรถอีวี เนื่องจากลูกค้าหลักคือ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG และบริษัทขนส่งดีเซล เป็นหลัก 80% เบนซิน 20% ดังนั้นระยะสั้นมองว่าไม่กระทบต่อการขนส่งน้ำมันโดยรถบรรทุก  และในปัจจุบันบริษัทยังไม่ได้มีแนวคิดการนำรถยนต์ EV มาใช้ในการขนส่ง เนื่องจากมองว่ายังไม่คุ้มค่าด้านการลงทุน” นายพิศาล กล่าว

อย่างไรก็ตามแนวโน้มภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2567 คาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากธุรกิจโลจิสติกส์ที่ฟื้นตัว และกองเรือ-รถ ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น ตามลำดับ ผลักดันธุรกิจขนส่งน้ำมันพืชและสารเคมีทางเรือยังมีความต้องการสูง รวมถึงธุรกิจขนส่งน้ำมันทางบกให้มีโอกาสเติบโตต่อเนื่องเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทตั้งเป้าปริมาณการขนส่งรวมปีนี้ไม่ต่ำกว่า 10%

โดยลูกค้าหลักของบริษัทยังเป็นประเทศจีนสัดส่วนราว 50% และอินเดีย บังกลาเทศ 30% และภูมิภาคอาเซียน ฟิลิปปินส์ เวียดนาม เมียนมา อยู่ที่ราว 20%

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

X คลิก https://twitter.com/thunhoon1

Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=