นพ.คงศักดิ์ เตชะวิบูลย์ผล ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เอสเตติก คอนเนค จำกัด (มหาชน) หรือ TRP ผู้ให้บริการศัลยกรรมตกแต่งใบหน้า ภายใต้ชื่อ “ธีรพรคลินิก” เปิดเผยว่า แผนธุรกิจปี 2567 บริษัทจะโฟกัส Core Business หรือธุรกิจหลัก โดยในฝั่งศัลยกรรมบริษัทยังมุ่งหน้าพัฒนาการให้บริการ และการขายภายในเพื่อให้ได้ตามเป้า และมีบริการอย่างเต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งบริษัทจะบริหารเรื่องมาร์เก็ตติ้งหรือการใช้เงินทำการตลาด เพราะช่วงที่ผ่านมาบริษัททำการตลาดค่อนข้างมาก
ขณะที่แนวโน้มธุรกิจเดือนแรก หรือเดือนมกราคม 2567 ยอดเข้าใช้บริการมีปริมาณเพิ่มขึ้น และอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ แต่ไม่ได้โดดเด่นหรือก้าวกระโดด แต่คาดว่าไตรมาส 2/2567 เป็นต้นไปจะเห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ไตรมาส
ปัจจุบันยอดเข้ารับการปรึกษามีแนวโน้มที่ดีขึ้น ไม่ได้ลดลง และถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ เพราะหลังจากเทศกาลปีใหม่ ผู้บริโภคเดินทางท่องเที่ยว แต่ยังมียอดเข้ามาปรึกษาอยู่ในระดับที่ดี โดยบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจศัลยกรรม หรือ Core Business ที่ 90% และธุรกิจอื่นๆ ที่ไม่ใช่ศัลยกรรม หรือ Non-Core Business เช่น สกิน ปลูกผม เวชศาสตร์ชะลอวัย อยู่ราว 10%
ขณะเดียวกันบริษัทจะเพิ่มโปรดักต์ใหม่ในการให้บริการมากขึ้น โดยบริษัทเริ่มให้บริการบางอย่างไปแล้วในช่วงปลายปี 2566 และเริ่มเห็นปริมาณมากขึ้นในช่วงไตรมาส 1/2567อีกทั้งบริษัทมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ โดยเฉพาะนวัตกรรมเฉพาะของ TRP อย่างเช่น Face-Lock, Eye-Lock, Fat Stem Cell รวมถึง TRP Programs และการให้บริการด้านผิวพรรณและความงามต่างๆ ที่ตอบโจทย์ครบทุกความงามให้กับผู้หญิงในแบบของตัวเอง
บริษัทมีเป้าหมายจะเสร็จสิ้นดีลการลงทุนธุรกิจ Non-Core Business เช่น สกินแคร์ ผม ภายในปี 2567 นี้ คาดจะเห็นดีลการร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ที่มีความแข็งแกร่งและเชี่ยวชาญ โดยอยู่ระหว่างเจรจากับพาร์ตเนอร์ ส่วนเงินลงทุนไม่กังวล เพราะบริษัทได้เงินจากการระดมทุนขายหุ้นให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) เป็นจำนวน 1.3 พันล้านบาท
นพ.คงศักดิ์ กล่าวต่อว่า ตลาด Non-Core Business เป็นตลาดค่อนข้างใหญ่ และมีการแข่งขันสูง หากบริษัทเริ่มต้นทำเองตั้งแต่แรก อาจใช้เวลานาน และหากยังไม่มีชื่อเสียงคาจะต้องแข่งขันทางด้านราคาสูง และจะส่งผลต่ออัตราการทำกำไร (มาร์จิ้น) ดังนั้นการร่วมมือกับพาร์ตเนอร์จะช่วยสร้างฐานการแข่งขันได้ และหากร่วมกับพาร์ตเนอร์ที่มีความเชี่ยวชาญ หรือดำเนินการมาก่อนแล้ว คาดจะช่วยผลักดันธุรกิจให้เติบโตร่วมกันอย่างรวดเร็ว
ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้ Non-Core Business อยู่ประมาณ 5% และคาดการเติบโตในกลุ่มนี้จะเติบโตสูง จากรายได้ต่ำ และอุตสาหกรรมที่มีขนาดใหญ่
สำหรับเป้าหมายการเติบโตปี 2567 บริษัทมองไว้แบบ Conservative 10-15% ขณะเดียวกันบริษัทจะพยายามรักษาอัตรากำไร (มาร์จิ้น) ให้ใกล้เคียงกับที่ผ่านมา ซึ่งเป็นตัวเลขที่ท้าทาย เพราะการแข่งขันสูง รวมถึงเศรษฐกิจในประเทศโดยรวมยังไม่ดีมากนัก อนึ่ง 9 เดือนแรกปี 2566 บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 541.86 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 147.94 ล้านบาท
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
X คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม