หุ้นกลุ่มแบงก์ มุมมองเปลี่ยน แนวโน้มดอกเบี้ยลดลง

#หุ้นแบงก์ #ทันหุ้น - บล.กสิกรไทยปรับมุมมองต่อกลุ่มธนาคารจากที่เป็นกลาง เป็นมุมมองเชิงลบ เนื่องจากคาดว่าการเติบโตของกำไรจะอ่อนแอลงในปี 2567-68 จาก NIM ที่ลดลง

บล.กสิกรไทยปรับสมมติฐานกำไรของกลุ่มปี 2567 -68 ลง 4.71 / 8.3% เนื่องจากคาดว่า NIM จะปรับตัวลงตามอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่คาดว่าจะถูกปรับลง 2 ครั้งใน 2H67

บล.กสิกรไทยชอบธนาคารขนาดเล็กอย่าง KKP และ TISCO มากกว่าธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ เนื่องจากจะได้รับผลกระทบที่จำกัดจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ลดลง

Investment Topics

อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ลดลงจะทำให้ตราดอกเบี้ยเงินกู้มาตรฐานปรับตัวลงในครึ่งหลังของปี 2567เมื่อวันที่ 27 ก.พ.2567 KBANK คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 2 ครั้ง เหลือ 2.0%ในช่วงสิ้นปี 2567 เนื่องจาก 1) แนวโน้มการเติบโตของ GDP ของไทยปี 2567 ที่ต่ำกว่าคาด 2) กนง.มีมติไม่เป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.5% ในการประชุม กนง.ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2567 และ 3) อัตราดอกเบี้ยนโยบายปัจจุบันน่าจะสูงเกินไป เราจึงคาดว่าธนาคารพาณิชย์จะลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้มาตรฐานลง 25bps ในไตรมาส 3/2567 และ 12.5bps ในไตรมาส 4/2567 นอกจากนี้ธนาคารพาณิชย์จะลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำตามอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในครึ่งหลังของปี 2567โดยยังคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ไว้

ผลกระทบเชิงลบต่อกำไรของกลุ่มธนาคาร บล.กสิกรไทยเชื่อว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ลดลงจะส่งผลให้อัตราส่วนต่างดอกเบี้ย (NIM) ของกลุ่มธนาคารลดลงในครึ่งหลังของปี 2567 และส่งผลให้กำไรสุทธิปี 2567-68 ของกลุ่มธุรกิจนี้ เติบโตต่ำที่ 2% และ 4% เราลดประมาณการกำไรของกลุ่มธนาคารปี 2567-68 ลง 4.7% และ 8.3 เพื่อสะท้อนสมมติฐาน NIM ที่ลดลงของเราตามอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ลดลงเหลือ 2% ในช่วงสิ้นปี 2567 เรายังลดสมมติฐาน NIM ของทุกธนาคารภายใต้การวิเคราะห์ของเรา ยกเว้น TISCO ที่เราคาดว่าจะมี NIM ที่ดีขึ้น เนื่องจาก TISCO มีสัดส่วนสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยคงที่และสัดสวนเงินฝากระยะยาวที่สูงกว่ากลุ่ม

ธนาคารขนาดเล็กจะได้รับผลกระทบที่จำกัด เราเชื่อว่านักลงทุนควรลดการลงทุนในธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่อย่าง BBL SCB และ KTB เนื่องจากคาดว่าธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่จะต้องเผชิญกับ NIM ที่ลดลง ซึ่งจะกดดันความสามารถในการทำกำไรในครึ่งหลังของปี 2567 ขณะเดียวกันสนับสนุนให้นักลงทุนเพิ่มสถานะในธนาคารขนาดเล็ก เช่น KKP และ TISCO เนื่องจากเราคาดว่าธนาคารขนาดเล็กเหล่านี้จะได้รับผลกระทบที่จำกัดจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ลดลงและมีแนวโน้มที่ NIM จะปรับดีขึ้นตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป

Valuation and Recommendation

บล.กสิกรไทยปรับลดมุมมองต่อกลุ่มธนาคารเป็นมุมมองเชิงลบจากมุมมองที่เป็นกลาง คาดว่าการเติบโตของกำไรจะปรับตัวลงลงในปี 2567-68 จากแนวโน้ม NIM ที่ลดลง

บล.กสิกรไทยเลือก KKP และ TISCO เป็นหุ้นเด่นของกลุ่มธนาคาร ขณะที่นำ TTB ออกจากหุ้นเด่นเนื่องจากราคาหุ้น TTB ปรับตัวสูงขึ้น โดยมี upside ที่จำกัด ปรับราคาเป้าหมายของ BBL SCB และ KTB ลง และคำแนะนำเป็น "ถือ" เพิ่มราคาเป้าหมายของ KKP และ TISCO จากเป้า PBV ที่สูงขึ้นเป็นหลัก