โบรกมองหุ้นอสังหาฯ ยังไม่ถึงจุดต่ำสุด

#หุ้นอสังหา #ทันหุ้น - บล.บัวหลวงวิเคราะห์หุ้นอสังหาฯระบุว่า ผู้บริหารบริษัทอสังหาฯคาดว่าจะเห็นผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นในไตรมาส 2/67 เพิ่มขึ้นจากฐานที่ต่ำในไตรมาส 1/67 และผู้บริหารส่วนใหญ่ตั้งความหวังกับผลการดำเนินงานครึ่งหลังของปี 2567 แต่มีแนวโน้มว่าจะไม่มีปัจจัยกระตุ้นที่ชัดเจน เราคาดว่าไตรมาส 2/67จะซะลอตัวอีกไตรมาสด้วยการแข่งขันที่รุนแรงซึ่งส่งผลให้มีการลดราคาโครงการพร้อมขาย

เพิ่มขึ้นจากโลว์ซีชั่นในไตรมาส 1/67 คาดการณ์ที่สูงในครึ่งหลังของปี 2567 ยังขาดปัจจัยหนุน

ผู้บริหารส่วนใหญ่ของบริษัทอสังหาฯที่เราให้คำแนะนำ ResProp มีมุมมอง Bearish ต่อแนวโน้มไตรมาส 2/67 ลดลง YoY แต่เพิ่มขึ้น QoQ (ช่วงโลว์ซีซั่นในไตรมาส 1/67) หลังจากเริ่มต้นอย่างช้าๆ ในไตรมาส 1/67 ผู้พัฒนาโครงการที่เราให้คำแนะนำวางแผนเปิดตัวโครงการเพิ่มขึ้น 7.3 หมื่นล้านบาท (โครงการแนวราบ 80%, โครงการคอนโด 20%) ในไตรมาส 2/67 เพิ่มขึ้น 3% YoY และ 64% QoQ แต่ยอดจองซื้อจะอ่อนตัวในเดือนเม.ย. เนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดสงกรานต์ที่ยาวนาน เราจึงคาดว่ายอดจองซื้อในไตรมาส 2/67 จะลดลง YoY แต่เพิ่มขึ้น QoQ (4.7 หมื่นล้านบาทในไตรมาส 2/67 และ 4.1 หมื่นล้านบาทในไตรมาส 1/67) เราคาดว่ารายได้รวมโครงการที่อยู่อาศัยจะแข็งแกร่งขึ้นในไตรมาส 2/67 ดังนั้นกำไรหลักรวมในไตรมาสนี้จะเพิ่มขึ้น QoQ เราคาดว่าไตรมาสที่ดีที่สุดของปี 2567 จะเป็นไตรมาส 4/67 หนุนจากอดขายโครงการคอนโด (ยอดขายโครงการแนวราบแนวโน้มทรงตัว YoY) ผู้บริหารส่วนใหญ่ตั้งความหวังไว้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีปัจจัยกระตุ้นที่ชัดเจนสำหรับกลุ่มอสังหาฯ

"ยังไม่ถึงจุดต่ำสุด": บริษัทส่วนใหญ่มีมุมมองเชิงลบในปี 2567

ผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ที่เราพูดคุยด้วยมีความกังวลเกี่ยวกับตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2567 พวกเขามองว่าผู้คนจะซื้อบ้านได้ยากเนื่องจากปัจจัยหลายประการ ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ซึ่งส่งผลให้สินเชื่อบ้านมีราคาแพงขึ้น หนี้ครัวเรือนในระดับสูง ซึ่งทำให้คุณสมบัติในการกู้ยืมยากขึ้น และเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวซึ่งอาจนำไปสู่การมีเงินน้อยลงสำหรับการซื้อบ้านโดยเฉพาะกลุ่มราคาระดับกลาง (2-4 ล้านบาทต่อยูนิต) ซึ่งเป็นราคาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่ผู้ซื้อ

การแข่งขันด้านราคาที่สูงขึ้นในไตรมาส 2-4/67

การบรรจบกันของปัจจัยหลายประการคาดว่าจะส่งผลให้ตลาดที่อยู่อาศัยชะลอตัวลงในปี 2567 เมื่อเทียบกับปี 2566ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะเห็นได้จากการลดลงของทั้งยอดขายและการใช้จ่ายโดยรวม ผลกระทบที่สำคัญที่สุดน่าจะสัมผัสได้จากกลุ่มอสังหาฯ โดยเฉพาะผู้พัฒนาโครงการที่มุ่งเน้นการขายโครงการที่เป็นยูนิตที่พร้อมอยู่ กลยุทธ์การกำหนดราคาอาจได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งอาจส่งผลให้รายได้และอัตรากำไรลดลง

ยังคงให้น้ำหนักการลงทุน "น้อยกว่าตลาด"

บล.บัวหลวงยังคงให้น้ำหนักการลงทุน "น้อยกว่าตลาด"โดยมองว่ามูลค่าหุ้นดูตึงตัวจากปัจจัยพื้นฐานในปัจจุบันเนื่องจากความผิดหวังในการขายอสังหาริมทรัพย์ การดำเนินนโยบาย หรือข้อมูลมหภาคอาจส่งผลให้ราคาหุ้นกลุ่มต่างๆ ลดลง เราขอแนะนำให้นักลงทุนรอดูจุดเข้าซื้อ เรายังคงชอบ SIRI (กำไรหลักเติบโต 1-3% YoY สำหรับบริษัทที่เหลือ เราคาดว่าจะเห็นกำไรหลักลดลง YoY