ทันหุ้น - THANI คาดเป้ายอดปล่อยสินเชื่อใหม่ปี2563 ราว 1.5 - 1.8 หมื่นล้านบาท จากการระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อสอดรับกับเศรษฐกิจ กดดันพอร์ตสินเชื่อปีนี้อยู่ที่ 4.5 - 5 หมื่นล้านบาท หลังประเมินผลเศรษฐกิจไตรมาส 2/2563 ซบเซา ฉุดอัตราการปล่อยสินเชื่อใหม่ครึ่งปีแรกลดลงเมื่อเทียบปีก่อน มองครึ่งปีหลังเศรษฐกิจทยอยฟื้นตัว

นายวิรัตน์ ชินประพินพร ประธานกรรมการ บริษัท ธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ THANI ประเมินภาพรวมธุรกิจในช่วงไตรมาส 2/2563 ว่าจะชะลอตัวลงทั้งเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อนและเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง กดดัน GDP ในช่วงเดือนเมษายน 2563 เข้ามาเต็มเดือน ในขณะที่เดือนมีนาคม มีผลเพียงช่วงปลายเดือนเท่านั้น ทำให้เชื่อว่าการดำเนินงานไตรมาส 1/2563 ของบริษัทยังมีแนวโน้มที่ดีกว่าเมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน

หั่นเป้าสินเชื่อใหม่

ทั้งนี้จากการคาดการณ์ตัวเลข GDP ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2563 จะออกมาเป็นติดลบ ทำให้บริษัทให้ความสำคัญในการคุมเข้มการปล่อยสินเชื่อใหม่เพิ่มขึ้น รวมถึงลูกค้าส่วนใหญ่ชะลอการตัดสินใจซื้อ คาดว่าอัตราการปล่อยสินเชื่อใหม่อาจหดตัวลง 10 - 20% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน ด้านนโยบายธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่การขยายระยะเวลาการชำระหนี้ให้กับลูกหนี้ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระในสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการดำเนินธุรกิจนั้น อาจทำให้ระดับสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เพิ่มขึ้นมาเล็กน้อยเป็นไม่เกิน 5% จากเป้าหมายเดิม 4%

แต่หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สามารถคลี่คลายลงภายในช่วงกลางปีนี้ มองว่ากว่าสภาพเศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้อาจต้องใช้ระยะเวลากว่า 6 เดือนหลังจากนั้น หรืออาจเห็นทิศทางการื้นตัวที่ดีขึ้นในช่วงไตรมาส 4/2563 หรือ 1/2564 เป็นต้นไป

จากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้บริษัทได้มีการปรับลดเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อใหม่ในปี 2563 ลงมาอยู่ที่ 15,000 - 18,000 ล้านบาท จากเดิมที่วางไว้ไม่น้อยกว่า 20,000 ล้านบาท เพื่อให้สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัว สะท้อนต่อพอร์ตสินเชื่อคงค้างในปีนี้ที่อาจปรับลดลงมาเหลืออยู่ที่ประมาณ 45,000 - 50,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงเมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อนหรืออาจปรับตัวลงเล็กน้อย

พลิกวิกฤตเป็นโอกาส

ขณะเดียวกันบริษัทมองว่าการเกิดวิกตโรคระบาดใหญ่ในครั้งนี้ทำให้หลายธุรกิจในหลายอุตสาหกรรมต้องมีการปรับตัวใหม่ เนื่องจากพฤติกรรมการดำรงชีวิตจากนี้อาจไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ต้องมีการเว้นระยะห่างเพื่อความปลอดภัย ผู้บริโภคหันมาใช้การสั่งซื้อสินค้าช่องทางออนไลน์มาขึ้น ทำให้ห็นว่าความต้องการการขนส่งสินค้านั้นมีการเติบโตมากกว่า 3 เท่าตัวจากช่วงเวลาปกติ และมีแนวโน้มที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันผู้ประกอบการบางรายที่มีรถบรรทุกและรถขนส่งก็ได้ปรับตัวมาให้บริการขนส่งสินค้ามากขึ้นด้วย

โดยพอร์ตการปล่อยสินเชื่อของบริษัทในสัดส่วนกว่า 70% เป็นการให้สินเชื่อรถบรรทุกและรถขนส่ง ซึ่งจากปัจจัยข้างต้นที่กล่าวทำให้บริษัทมองว่าสัดส่วนการปล่อนสินเชื่อในกลุ่มนี้อาจมีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 80 - 90% ของพอร์ตสินเชื่อรวมในอนาคต พร้อมกันนี้บริษัทยังมีความสนใจที่จะเพิ่มธุรกิจปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อมอเตอร์ไซต์เพิ่มเติมอีกด้วย ส่วนการปล่อยสินเชื่อผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น การปล่อยสินเชื่อเรือลักชัวรี่ และรถตู้แบบ EV เบื้องต้นอาจต้องมีการชะลอการปล่อยสินเชื่อไปก่อน เนื่องจากในปัจจุบันการระบาดของโควิด-19 มีผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจภาคการบริการโดยเฉพาะการท่องเที่ยว

"ต้องยอมรับว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีผลกระทบแทบทุกอุตสาหกรรม เราคงได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมการใช้ชีวิตมากขึ้นและมองว่าอาจไม่สามารถกลับไปเป็นเหมือนในอดีตได้ ทางภาครัฐเองก็มีการออกมาตรการต่างๆเข้ามาช่วยพยุงเศรษฐกิจและธุรกิจขนาดเล็กขนาดกลาง ทำให้เชื่อว่าเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย ธุรกิจก็จะกลับมาดำเนินการได้ ด้านสถานะทางการเงินเรายังคงมีความแข็งแกร่งและไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด สถาบันการเงินให้ความเชื่อใจปล่อยกู้ต่อเนื่อง"นายวิรัตน์ กล่าว

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1