> SET > THANI

11 พฤษภาคม 2020 เวลา 11:55 น.

ทริสเรทติ้ง จัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่เกิน 4.5 พันลบ. “THANI” ที่ A- แนวโน้ม STABLE

ทันหุ้น-สู้โควิด : ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กร บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ THANI และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ "A-" ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" พร้อมกันนี้ ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ของบริษัทในวงเงินไม่เกิน 4.5 พันล้านบาท ไถ่ถอนภายใน 5 ปี ที่ระดับ "A-" ด้วยเช่นกัน โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปใช้ในการดำเนินงานและชำระคืนหนี้   


อันดับเครดิตของบริษัทได้รับการยกระดับเพิ่มขึ้นจากสถานะอันดับเครดิตเฉพาะของบริษัทตามเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตกลุ่มธุรกิจของทริสเรทติ้ง โดยทริสเรทติ้งมีมุมมองว่าบริษัทมีสถานะเป็นบริษัทลูกที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของบมจ.ทุนธนชาต (TCAP) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ด้วยสัดส่วน 57.5% ณ เดือนมีนาคม 2563 โดยบริษัททุนธนชาตได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ "A/Stable" โดยทริสเรทติ้ง บริษัทเป็นหนึ่งในบริษัทหลักที่สร้างรายได้และกระแสเงินสดแก่บริษัททุนธนชาต ซึ่งทริสเรทติ้งมีมุมมองว่ามีแนวโน้มค่อนข้างสูงที่บริษัททุนธนชาตจะยังคงรักษาสถานะการเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทในระยะยาว


อันดับเครดิตเฉพาะของบริษัทยังคงสะท้อนถึงสถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งในตลาดสินเชื่อเช่าซื้อที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ ได้แก่ รถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์และรถยนต์หรู (Luxury Car) อันดับเครดิตยังพิจารณาถึงผลประกอบการทางการเงินและคุณภาพสินทรัพย์ของบริษัทที่ปรับดีขึ้น แม้ว่าจะมีความเป็นไปได้ที่การเติบโตของสินเชื่อจะลดลง ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะสามารถดำรงสถานะทางการตลาดในอีก 2-3 ปีข้างหน้าไว้ได้แม้ปริมาณธุรกิจจะชะลอตัวลงซึ่งเป็นไปตามภาวะอุตสาหกรรมโดยรวม 


ทริสเรทติ้งคาดการณ์ว่าคุณภาพสินทรัพย์ของบริษัทจะถดถอยลงในระดับปานกลางด้วยอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวมปรับเพิ่มขึ้นเป็น 5%-6% จากปัจจุบันที่ 4% อันเนื่องมาจากผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการระบาดของโควิด-19 (COVID-19) อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งประเมินว่าคุณภาพสินทรัพย์ที่อ่อนแอลงจะไม่กระทบต่อสถานะความเสี่ยงโดยรวมของบริษัทซึ่งได้รับการสนับสนุนจากนโยบายด้านเครดิตที่เข้มงวด การปรับปรุงและพัฒนากระบวนการจัดเก็บหนี้ และการมีสำรองหนี้สูญในระดับที่เพียงพอ


ฐานทุนของบริษัทซึ่งประเมินโดยอัตราส่วนเงินทุนที่ปรับความเสี่ยงอยู่ในระดับที่เข้มแข็ง อัตราส่วนเงินทุนที่ปรับความเสี่ยงของบริษัทอยู่ที่ 15.2% ณ สิ้นปี 2562 ทริสเรทติ้งคาดการณ์อัตราส่วนดังกล่าวในระยะ 3 ปีข้างหน้า (2563-2565) อยู่ในระดับเฉลี่ยที่ 17.2% และเมื่อผนวกกับความสามารถในการสร้างรายได้ซึ่งทริสเรทติ้งมีมุมมองว่าอยู่ในระดับปานกลางแล้ว ระดับ ทุน การก่อหนี้และกำไรของบริษัทอยู่ในระดับที่เพียงพอ ทริสเรทติ้งใช้อัตราส่วนกำไรก่อนภาษีเงินได้ต่อสินทรัพย์เสี่ยงถัวเฉลี่ยและอัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยในการประเมินศักยภาพในการสร้างรายได้และกำไรของบริษัท


ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะรักษาระดับผลการดำเนินงานในระยะ 3 ปีข้างหน้า (2563-2565) ด้วยอัตราส่วนกำไรก่อนภาษีเงินได้ต่อสินทรัพย์เสี่ยงถัวเฉลี่ยที่ 4.2% และอัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยที่ 3.3% ความสามารถในการสร้างกำไรของบริษัทแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยกำไรสุทธิรวมของบริษัทเพิ่มขึ้น 20% เป็น 1.96 พันล้านบาท ในปี 2562 โดยเป็นผลจากค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองที่ลดลงเนื่องจากการกลับรายการสำรองหนี้สูญเพื่อรองรับการใช้มาตรฐานการรายงานทางการเงิน TFRS9 ในปี 2563


ความกังวลของทริสเรทติ้งต่อความเสี่ยงด้านสภาพคล่องและการกู้ยืมใหม่เพื่อชำระหนี้เดิมอันเป็นผลสืบเนื่องจากความเกรงกลัวต่อความเสี่ยงในตลาดตราสารหนี้ได้รับการบรรเทาลงจากความสามารถของบริษัทในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่หลากหลาย รวมถึงวงเงินกู้ยืมที่ได้รับจากสถาบันการเงินต่าง ๆ ซึ่งเพิ่มเติมจากวงเงินที่ได้รับอย่างต่อเนื่องจากธนาคารธนชาตที่เป็นผู้ถือหุ้นเดิม


แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" สะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะรักษาสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในกลุ่มตลาดเป้าหมายที่มีความเชี่ยวชาญและความสามารถในการสร้างรายได้และกำไรไว้ได้ แนวโน้มอันดับเครดิตยังอยู่บนการคาดการณ์ว่าบริษัทจะดำรงคุณภาพสินทรัพย์ไว้ได้แม้ว่าสภาพแวดล้อมทางด้านเครดิตจะอ่อนแอ 


ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

อันดับเครดิตหรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทอาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหากคุณภาพเครดิตเฉพาะของบริษัทปรับดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ฐานทุนแข็งแกร่งมากขึ้น ด้วยอัตราส่วนเงินทุนที่ปรับความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเหนือกว่าระดับ 25% และอัตราส่วนกำไรก่อนภาษีเงินได้ต่อสินทรัพย์เสี่ยงถัวเฉลี่ยมากกว่า 6% อย่างมีเสถียรภาพในระยะเวลาหนึ่ง อันดับเครดิตหรือแนวโน้มอันดับเครดิตอาจปรับลดลงหากสถานะทุนของบริษัทอ่อนแอลงด้วยอัตราส่วนเงินทุนที่ปรับความเสี่ยงลดลงต่ำกว่า 15% ในช่วงระยะเวลาหนึ่งอย่างต่อเนื่อง หรือคุณภาพสินทรัพย์เสื่อมถอยลงอย่างมีนัยสำคัญจนกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรและทุนของบริษัท


เกณฑ์การจัดอันดับที่เกี่ยวข้อง

การจัดอันดับเครดิตบริษัทให้สินเชื่อที่ไม่ใช่ธนาคาร, 17 กุมภาพันธ์ 2563

Group Rating Methodology, 10 กรกฎาคม 2558


อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก
https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก
https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก
https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก
https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก
https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X