> SET > PRM

24 ธันวาคม 2020 เวลา 10:19 น.

PRM ซื้อหุ้นTM ช่วย diversify รายได้-เพิ่มกำไรระยะยาว

ทันหุ้น - บล.เคทีบี (ประเทศไทย) คงแนะนำ “ซื้อ” PRM และราคาเป้าหมาย 12.00 บาท อิง 2021E PER ที่ 18เท่า (-0.5SDbelow 3-yr average PER) มีมุมมองเป็นบวกมากขึ้นจากการที่ PRM จะเข้าซื้อหุ้น 100%ในไทยออยล์มารีน (TM)จาก Thai Oil (TOP TB) โดย PRM จะได้ประโยชน์จากดีลนี้ดังนี้ 1)รับงานใหม่เพิ่มจาก TOP, 2) PRM คาดว่าหลังจากเข้าซื้อ TM จะพลิกกลับมามีกำไร (TM ปี 2019 ขาดทุน -216ล้านบาท, 9M20กำไร +34 ล้านบาท) จากการเพิ่มรายได้และบริหารจัดการค่าใช้จ่ายได้ดีกว่า และ 3)รายได้จากธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันระหว่างประเทศในปี 2022E เพิ่มขึ้นเป็น 25% จากปี 2020E ที่ 3%  โดยเราประเมินจะมีกำไรปีละไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท/ลำ โดยคาดว่าจะรับเรือใหม่ 1 ลำ ภายในปี 2021E และอีก  2 ลำจะรับในปี 2022E 


ทั้งนี้เรายังประเมินกำไรสุทธิปี 2021E-22E ที่ 1.7 พันล้านบาท (+12% YoY) และ 1.9 พันล้านบาท (+12% YoY) ตามลำดับ แต่หากรวมงานใหม่ประเมินว่าจะช่วยเพิ่มกำไรในปี 2021E-22E ได้อีกไม่ต่ำกว่าราว 50 ล้านบาท และ 250 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นของกำไรสำหรับปี 2021E-22E อีก +3%  และ +13%   คิดจากสมมติฐานต้นทุนการเช่า/ซื้อเรือ VLCC ที่ราคาปัจจุบัน  โดยเรายังไม่ได้รวมกำไรที่เพิ่มขึ้นนี้ในประมานการของเราจนกว่าเราจะทราบรายละเอียดของต้นทุนเรือใหม่


ราคาหุ้นปรับตัวลงและ underperform SET -23%ในช่วง3เดือนที่ผ่านมาจากเรือ domestic trading ที่ฟื้นตัวช้า และการซื้อเรือ FSU ใหม่ที่ยังไม่แน่นอน ทั้งนี้ เรายังคงแนะนำ ซื้อ จากแนวโน้มกำไร 4Q20E ที่จะยังคงเติบโตโดดเด่น YoY และปี2021E ยังมีแนวโน้มเติบโตได้ต่อเนื่องและกำไรยังมี upside เพิ่มจากแผนการเข้าซื้อหุ้นTM ซึ่งจะทำให้PRM จะได้งานใหม่เพิ่มจาก TOP ด้วยซึ่งกรณีหากรวมงานใหม่จะทำให้ราคาเป้าหมายใหม่ในปี 2021E อยู่ที่ 12.50 บาท


PRM จะเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดในไทยออยล์มารีน (TM) + รับงานใหม่เพิ่มจาก TOPที่ประชุมบอร์ด PRM เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.20 มีมติอนุมัติให้ บจ.ภูริช มารีน ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ PRM ทำสัญญาเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดในบริษัทไทยออยล์มารีน(TM)จาก Thai Oil (TOP TB)โดย TM ประกอบธุรกิจ 1) ธุรกิจขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและเคมี, 2) ธุรกิจขนส่งน้ำมันดิบ, 3) ธุรกิจบริหารจัดการเรือหรือตัวแทน และ 4) ธุรกิจเรือสนับสนุนงาน Offshoreโดยมีราคาซื้อขายTM เบื้องต้นที่346.5ล้านบาท โดยคาดว่าดีลจะเสร็จสิ้นภายใน 30 มิ.ย.21 ใช้แหล่งเงินทุนจากเงินทุนหมุนเวียนและเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินนอกจากนั้น ภายหลังเสร็จสิ้นดีลดังกล่าว PRM จะเข้ารับงานใหม่เพิ่มจาก TOP ได้แก่ 1) บริการเรือขนส่งน้ำมันดิบ VLCC จำนวน 3 ลำ ระยะเวลา 10 ปี, 2) บริการเรือขนส่งน้ำมันขนาดเล็ก 3 ลำ เป็นระยะเวลา 5 ปี และ 3) บริการในการเป็นตัวแทนเรือ (Ship Agent) เป็นระยะเวลา 5 ปี


ได้เรือใหม่เพิ่ม 18 ลำ แนวโน้มระยะยาวจะเติบโตดีจากการรับงานใหม่เรามองเป็นบวกจากดีลดังกล่าว จาก 

1) จะทำให้ PRM มีเรือใหม่เพิ่มจำนวน 18ลำ (ปัจจุบัน PRM มีเรือทั้งหมด 40 ลำ) แบ่งเป็นธุรกิจ Offshore จำนวน 13 ลำ และเรือขนส่งน้ำมันในประเทศจำนวน 5 ลำ


2) TM มีผลการดำเนินงานปี 2019 ขาดทุน -216ล้านบาท ส่วน 9M20กำไร +34 ล้านบาท(ข้อมูลจาก TOP) ซึ่งPRM ประเมินว่าภายหลังการเข้าซื้อ TM จะไม่ขาดทุน จากการที่ PRM มีการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายได้ดีกว่า 


3)จะได้ผลบวกระยะยาวจากการเข้ารับงานใหม่เพิ่มจาก TOP โดยเฉพาะการบริหารเรือขนส่งน้ำมันดิบระหว่างประเทศขนาด VLCC จำนวน 3 ลำ เป็นระยะเวลา10 ปีทั้งนี้ PRM จะต้องมีการจัดหาเรือใหม่เพิ่ม ซึ่งอาจจะเป็นรูปแบบการเช่า/ซื้อโดยประเมินว่าจะเริ่มให้บริการภายในปี 2021E จำนวน 1 ลำ และปี 2022E เพิ่มอีกจำนวน 2 ลำ ซึ่งหลังจากรับเรือใหม่ครบ 3 ลำ จะส่งผลให้PRM ประเมินรายได้จากธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันระหว่างประเทศในปี 2022E เพิ่มขึ้นเป็น 25%จากปี 2020E ที่ 3% ทั้งนี้ เราประเมินเรือ VLCC จะมีกำไรไม่ต่ำกว่า เรือ Aframax ที่ PRM ให้บริการปัจจุบันที่มีกำไรสุทธิราว 50-70 ล้านบาท/ปี (เรือ Aframax มีขนาด 1 แสนเดทเวทตัน ส่วนเรือ VLCC จะอยู่ที่ประมาณ 2-3 แสนเดทเวทตัน)


เรือขนส่งน้ำมันระหว่างประเทศ จะเริ่มเห็นผลบวกที่ชัดเจนในปี 2022เรายังประเมินกำไรสุทธิปี 2021E ที่ 1.7 พันล้านบาท (+12% YoY) และปี 2022E ที่1.9 พันล้านบาท (+12% YoY) แต่หากรวมงานใหม่จาก TOP ที่ส่วนใหญ่จะเติบโตจากธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันระหว่างประเทศ เราประเมินว่าจะช่วยเพิ่มกำไรในปี 2021E-22E ได้อีกไม่ต่ำกว่าราว 50 ล้านบาท และปี 2021E อีก250 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นของกำไรสำหรับปี 2022E อีก +3%  และ +13%  คิดจากสมมติฐานต้นทุนการเช่า/ซื้อเรือ VLCC ที่ราคาปัจจุบัน โดยเรายังไม่ได้รวมกำไรที่เพิ่มขึ้นนี้ในประมานการของเราจนกว่าเราจะทราบรายละเอียดของต้นทุนเรือใหม่


ประเมินราคาเป้าหมายที่ 12.00 บาท อิง 2021E PER ที่ 18เท่า (-0.5SDbelow 3-yr average PER) แต่กรณีหากรวมงานใหม่จาก TOP จะทำให้ราคาเป้าหมายใหม่อยู่ที่ 12.50 บาท โดยมีkey catalyst จากอัตราการเติบโตของกำไรครั้งใหม่ จากแผนการเข้าซื้อ TM และจะได้รับงานใหม่เพิ่มจาก TOP

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก
https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก
https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก
https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก
https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก
https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X