ทันหุ้น - SVT กางแผนปี 2565 เดินหน้าเพิ่มตู้ Smart ไม่ต่ำกว่า 10,000 ตู้ รองรับโมเดลธุรกิจแฟรนไชส์ และ เปิดสาขาใหม่บุกภาคเหนือ-อีสาน-ใต้ เพิ่ม เตรียมออกผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม กัญชง–กัญชา-กระท่อม ร่วมกับพาร์ตเนอร์ คาดชัดเจนไตรมาสที่ 2/2565 ตั้งเป้ารายได้โต 25% จากปีนี้คาดโต 10%

นายพิศณุ  โชควัฒนา กรรมการ บริษัท ซันเวนดิ้ง เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SVT ผู้จำหน่ายสินค้าผ่านเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ ภายใต้เครื่องหมายการค้า "SUN Vending" เปิดเผยว่า ภายในปี 2565 - 2566 จะเพิ่ม เครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ (ตู้ Smart) ให้ครบ 15,000 เครื่อง โดยจะเป็นเครื่องอัตโนมัติประเภทที่รองรับเงินสด และการชำระผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์

นอกจากนี้ในปี 2565 บริษัทมีแผนผลิตตู้ Smart ให้ได้ไม่ต่ำกว่า 10,000 ตู้ เพื่อรองรับธุรกิจใหม่ในรูปแบบ แฟรนไชส์ (Franchise) ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเห็นความชัดเจนช่วงต้นปี 2565 นอกจากนี้บริษัทเตรียมเปิดสาขาใหม่เพิ่มเติม อีก 3 สาขา ในภาคเหนือ จังหวัดลำพูน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดอุดรธานี  เเละภาคใต้จังหวัดสงขลา โดยปัจจุบันบริษัทมีสาขารวม 11 แห่ง คลอบคุลมพื้นที่ 26 จังหวัด

ออกผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม

ความพิเศษอีกอย่างในปี 2565 คือบริษัทจะมีการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เป็นแบรนด์ของบริษัทเอง โดยจะเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องดื่มกัญชง-กัญชา-กระท่อม ซึ่งมองว่าเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคในปัจจุบัน เบื้องต้นจะร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ที่เป็นผู้คิดค้นสูตร และทาง SVT จะเป็นช่องทางในการจัดจำหน่าย คาดชัดเจนในช่วงไตรมาสที่ 2/2565

นายพิศณุ กล่าวต่อไปว่า ธุรกิจ Vending ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการ ซึ่งมีหลายรายที่สนใจนำสินค้าเข้ามาอยู่บนชั้นของตู้ Vending เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการเข้าถึงลูกค้า และทาง SVT ก็ถือเป็นช่องทางหนึ่งที่สามารถตอบโจทย์ผู้ประกอบการได้ด้วยบริการที่คลอบคลุมทั้งการเช่าตู้, ซื้อตู้ รวมถึงบริการเติมสินค้าบนตู้ บริษัทก็สามารถดำเนินการให้ได้

ปี 65 รายได้โต 25%

สำหรับรายได้ปี 2565 บริษัทคาดว่าจะเติบโตประมาณ 25% ซึ่งมาจากการเพิ่มจำนวนตู้ในพื้นที่ต่างๆ การขยายพื้นที่การให้บริการมากขึ้น และการขายโฆษณาผ่านตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ ซึ่งถือว่าเป็นธุรกิจที่ไม่มีต้นทุน รวมถึงธุรกิจ แฟรนไชส์ที่จะเพิ่มรายได้เข้ามาอีกด้วย ขณะที่ปี 2564 บริษัทคาดว่ารายได้จะเติบโตประมาณ 10%

ด้านภาพรวมธุรกิจในช่วง 2 เดือนสุดท้าย คาดว่าผลการดำเนินงานน่าจะปรับตัวดีขึ้น จากมาตรการคลายล็อกดาวน์ ทำให้ประชาชนออกมาใช้บริการตู้ในพื้นที่ต่างๆ มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น โรงเรียน โรงงานอุตสาหกรรม เป็นต้น นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับการติดต่อจากโรงงานอุตสาหกรรมให้ SVT เข้าไปติดตั้งตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติมากขึ้น เนื่องจากไม่อยากให้พนักงานออกไปพื้นที่นอกโรงงานอุตสาหกรรม

ทั้งนี้ รายได้จากการขายสินค้าผ่านเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติมีความผันผวนตามฤดูกาลบ้าง โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาว เช่น ปีใหม่ หรือสงกรานต์ จะทำให้ยอดขายลดลง โดยเฉพาะในเดือนเมษายนเนื่องจากปัจจุบันสัดส่วนการวางเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติของ SVT อยู่ในพื้นที่โรงงานค่อนข้างสูง ดังนั้น เมื่อโรงงานปิดติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน ทำให้ยอดขายลดลง แต่อย่างไรก็ตาม SVT มีแผนที่จะกระจายการวางเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติไปยังสถานที่ตั้งอื่นๆ ที่เป็นสถานที่เปิดเพิ่มขึ้น เช่น ห้างสรรพสินค้า ปั๊มน้ำมัน โรงเรียน โรงพยาบาล ฯลฯ เพื่อลดความผันผวนของรายได้ในช่วงฤดูกาลดังกล่าว

สำหรับปี 2564 คาดว่าจะสามารถเพิ่มตู้ได้ราว 3,000 ตู้ ลดลงจากเป้าหมาย 5,000 ตู้ เนื่องจากมีปัญหาทางด้านห่วงโซ่การผลิตหรือซัพพลายเชนที่นำเข้ามาจากประเทศจีน ทำให้การเพิ่มจำนวนตู้ล่าช้าออกไป อย่างไรก็ตามในปี 2565 หากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายบริษัทคาดว่าปัญหาทางด้านซัพพลายเชนก็จะเริ่มปรับตัวดีขึ้น

จับมือบัตรแรบบิทโต

ล่าสุด SVT ยังได้จับมือกับ บัตรแรบบิท (Rabbit Card) เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการชำระค่าสินค้า ผ่านบัตรแรบบิท ที่เครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติของ SUN Vending ในจุดให้บริการต่างๆ เช่น สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส, ห้างสรรพสินค้าและตามแหล่งชุมชน ฯลฯ

โดยปัจจุบันฐานลูกค้าผู้ใช้บริการบัตรแรบบิทในปัจจุบัน มีมากกว่า 15.5 ล้านใบ ซึ่งเมื่อเดือนกรกฎาคม 2564 มีผู้บริโภคชำระค่าสินค้าผ่านเครื่อง SUN Vending ด้วยบัตรแรบบิท เติบโตขึ้นจากปี 2563 ถึง 400% และคาดว่าเมื่อถึงสิ้นปีจะเติบโต 600% ทั้งนี้เพื่อรองรับการเติบโตดังกล่าว บริษัทวางเป้าหมายในการเพิ่มจำนวนตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ ที่สามารถรองรับการชำระเงินและจุดเติมเงินผ่านบัตรแรบบิท มากกว่า 1,000 ตู้ภายใน 5 ปี ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และตามหัวเมืองใหญ่จังหวัดต่างๆ