> SET > TMT

28 เมษายน 2022 เวลา 08:45 น.

TMTยอดขายพุ่ง10% เหล็กยืน1,000ดอลล์ จับตาดีมานด์ฟื้นQ3

#TMT #ทันหุ้น – TMT แววยอดขายไตรมาส 1/2565 เติบโต 10% ตามเป้า มองอุตสาหกรรมเหล็กปี 2565ยังมีความไม่แน่นอนสูงหลังเกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน และจีนล็อกดาวน์ กดดันเศรษฐกิจและการบริโภคลดลง คาดราคาเหล็กไตรมาส 2-3/2565 ทรงตัวระดับ 900-1,000 ดอลลาร์ต่อตัน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากว่า 15% จากไตรมาสก่อน


นายไพศาล  ธรสารสมบัติ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีเอ็มที สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ TMT เปิดเผยว่า ภาพรวมในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2565มองดีมานด์การใช้เหล็กในประเทศไทยยังขยายตัวเพิ่มขึ้น จากภาครัฐและเอกชนกลับมาเดินหน้าลงทุนโครงการต่างๆ มากขึ้น ส่งผลให้ยอดขายในช่วงไตรมาสแรกปีนี้เติบโตถึง 10% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และขยายตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้


ขณะที่แนวโน้มราคาเหล็กระยะสั้นมีโอกาสย่อตัว แต่คาดว่าจะยังคงทรงตัวในระดับสูงเฉลี่ยราว 900-1,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันได้ต่อในไตรมาส 2/2565 และไตรมาส 3/2565 ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นมากว่า 15% จากช่วงไตรมาส 4/2564 ที่ราคาเหล็กเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 800 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน เป็นผลมาจากสถานการณ์โลกที่ไม่ปกติ ทั้งการเกิดสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ทำให้เศรษฐกิจและการบริโภคในโซนยุโรปชะลอตัวลง รวมถึงการล็อกดาวน์เมืองหลักของประเทศจีน


*ดีมานด์เหล็กฟื้น


ขณะที่ความต้องการใช้เหล็กโลกมีแนวโน้มที่จะหดตัวในไตรมาส 2/2565แต่ด้วยปัจจัยซัพพลายที่มีอยู่อย่างจำกัดช่วยชดเชยผลกระทบดังกล่าว และทำให้ราคาเหล็กยังทรงตัวผันผวนในระดับสูงต่อไป ซึ่งจากนี้คงต้องให้การจับตารอดูปัจจัยภายนอกต่อไปในไตรมาส 2/2565 หากว่าสถานการณ์ต่างๆ กลับมาฟื้นตัวได้ไว ไม่ว่าจะเรื่องโรคระบาดไวรัสโควิด-19 ที่กลายมาเป็นโรคประจำถิ่น การเปิดประเทศและกลับมามีการเดินทางท่องเที่ยว ก็จะหนุนให้ดีมานด์ในการใช้งานเหล็กกลับมาได้ในไตรมาส 3/2565เป็นต้นไป


"ต้องยอมรับว่าราคาเหล็กในปี 12565 ค่อนข้างคาดเดาได้ยาก เพราะมีหลายปัจจัยภายนอกเข้ามามีบทบาท ทั้งสงครามรัสเซีย-ยูเครน การล็อกดาวน์หลายเมืองในจีน กดดันให้เศรษฐกิจและการบริโภคเหล็กชะลอตัวลง แต่ก็มีเรื่องของซัพพลายที่มีอยู่อย่างจำกัด รวมถึงดีมานด์การใช้เหล็กในตลาดใหญ่อย่างสหรัฐและญี่ปุ่นยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้เข้ามาพยุงราคาเหล็กให้ทรงตัวอยู่ในระดับสูงได้ต่อไป และเชื่อว่าอาจจะยาวไปจนถึงไตรมาส 3/2565 เลยก็เป็นได้ ส่วนจะกระทบเราหรือไม่ มองว่าอาจมีมาร์จิ้นบางลงบ้างในไตรมาสแรก แต่เชื่อว่าจะดีขึ้นในไตรมาส 2/2565" นายไพศาล กล่าว


*ย้ำเป้ารายได้โต 12%


สำหรับแผนงานในปี 2565บริษัทวางเป้ารายได้จากการขายมากกว่า 12% เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่มีรายได้ราว 21,626.12 ล้านบาท เนื่องจากมองปีนี้อุตสาหกรรมเหล็กในประเทศยังได้รับผลบวกจากเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการลงทุนที่เกี่ยวข้องขยายตัว ทำให้ความต้องการเหล็กและคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) ของบริษัทปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ดี อาจต้องรอดูสถานการณ์ต่อไปในไตรมาส 2/2565ว่าจะมีปัจจัยลบใหม่เข้ามากดดันหรือไม่


อย่างไรก็ตาม บริษัทมีแนวทางทำตลาดลูกค้าใหม่ๆ เพื่อขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้นในอนาคต ส่วนงบปีนี้วางไว้ราว 400 ล้านบาท เพื่อรองรับการเพิ่มกำลังผลิตเหล็กท่อในรูปแบบต่างๆ เพิ่มเติม ผลักดันให้กำลังผลิตรวมขยับเพิ่มเป็นราว 1.2 ล้านตันต่อปี


รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA

APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X