> SET > NCH

01 ธันวาคม 2022 เวลา 13:38 น.

NCH ควักพันล้าน ซื้อที่ดินเข้าพอร์ต ต่อยอดงานปี 66 โต

#NCH #ทันหุ้น - NCH กางแผนปี 66 คาดทั้งยอดขายและยอดโอนโตต่อเนื่องจากปี 65 เล็งเปิดตัวโครงการใหม่ 5-6 โปรเจ็กต์ พร้อมทุ่มงบกว่าพันล้านบาทจัดซื้อที่ดินใหม่ ส่งซิกภาพรวมในไตรมาส 4/65 คึกคัก ลูกค้าเร่งซื้อเร่งโอนหวังให้ทันกำหนดสิ้นสุด มาตรการผ่อนปรน LTV เดือนธ.ค.65 นี้


นายวลัชณัฏฐ์ รุจิดาศิริสกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท เอ็น. ซี. เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ NCH เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 2566บริษัทคาดว่าจะเห็นการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในส่วนของยอดขาย (Pre-sale) และยอดการโอนกรรมสิทธิ์ (Transfer) เมื่อเทียบจากปีก่อน โดยบริษัทวางแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่อีกไม่น้อยกว่า 5-6โครงการ


ทุ่มงบพันล.

ทั้งนี้ เตรียมเงินลงทุนไว้ที่เฉลี่ยประมาณ 1,000ล้านบาท เพื่อรองรับการจัดซื้อที่ดิน (Land bank) แปลงใหม่เพื่อรองรับการพัฒนาโครงการในอนาคตเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าจะสามารถจัดซื้อที่ดินใหม่เข้ามาได้เพิ่มเติมอีกประมาณ 5-6 แปลง อย่างไรก็ดี ปัจจุบันบริษัทยังมี Land bank ในมืออีกจำนวนมาก โดยเฉพาะในทำเลคลอง 5ที่ยังสามารถรองรับการพัฒนาโครงการใหม่ได้อีกกว่า 4-5โครงการ และย่านคลอง 6 ที่รองรับได้อีก 3-4 โครงการ


ส่วนภาพรวมอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ในปี 2566คาดว่ายังเป็นอีกปีที่มีความท้าทาย ทั้งด้วยเรื่องปัจจัยการถดถอยของเศรษฐกิจ และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้น แต่มองว่ายังไม่ได้สูงมากเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยตลอด 20ปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกันก็มีความคาดหวังว่าภาครัฐจะผ่อนคลาย LTV เพิ่มเติม รวมถึงต่ออายุการลดหย่อนค่าโอนจดจำนอง ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่เข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและอสังหาฯ ให้ขยายตัวได้ต่อ


บ้านพร้อมขายแน่น

สำหรับในปี 2565บริษัทยังคงเป้าหมายยอดขายไว้ที่แตะระดับ 4,500 ล้านบาท และยอดการโอนกรรมสิทธิ์ไว้ที่ 2,500 ล้านบาท โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้บริษัทสามารถสร้างยอดขายเติบโตได้แล้วที่ 3,408 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนกว่า 74.04%ของเป้าหมายยอดขายทั้งปี ขณะเดียวกันยอดการโอนกรรมสิทธิ์ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ทำได้แล้วอยู่ที่ระดับ 1,901ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนกว่า 76.04% ของเป้าหมายทั้งปี


โดยในช่วงไตรมาส 4/2565 เชื่อว่าภาคอสังหาฯ จะค่อนข้างคึกคัก เนื่องจากลูกค้าจะมีการเร่งตัดสินใจซื้อ และการโอนกรรมสิทธิ์ให้ทันก่อนที่จะสิ้นสุดกำหนดผ่อนคลายมาตรการ LTV ในเดือนธันวาคม 2565 นี้ ขณะเดียวกันบริษัทยังมียอดขายที่รอการทยอยโอนกรรมสิทธิ์ (Backlog) ในมืออีกกว่า 117 ยูนิต หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 516 ล้านบาท ที่คาดว่าจะทยอยส่งมอบและรับรู้เข้ามาเป็นรายได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้เพิ่มเติม


นอกจากนี้ บริษัทยังเหลือโครงการใหม่ที่รอเปิดตัวอีก จำนวน 1-2 โครงการ จากเป้าหมายทั้งปี 2565 ที่วางไว้ จำนวน 5 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 4,500 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้บริษัทมีการทยอยเปิดตัวโครงการใหม่ไปแล้ว จำนวน 3 โครงการ แบรนด์ THEO ชัยพฤษ-แจ้งวัฒนะ, แบรนด์ NEOLA รังสิต-คลอง 2และแบรนด์ NEOLA ลำลูกกา-คลอง 7เป็นต้น


พร้อมกันนี้ บริษัทยังมีสินค้าสร้างเสร็จพร้อมขายในมืออีกมากว่า 1,401 ยูนิต หรือคิดเป็นมูลค่าว่า 6,041 ล้านบาท รองรับความต้องการที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะกลุ่มแนวราบ ทั้งทาวน์เฮาส์, บ้านแฝด, บ้านเดี่ยว ที่มีระดับราคาตั้งแต่ 3-5 ล้านบาทต่อยูนิตขึ้นไป ซึ่งเป้นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่บริษัทให้ความสำคัญ และมองว่าเป้นกลุ่มที่จะได้รับผลกระทบจากภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นอย่างจำกัด

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X