#PRM #ทันหุ้น – PRM ลั่นความต้องการน้ำมันเครื่องบินมาร์จิ้นสูงพุ่ง ดีมานด์เรือสำรวจทางทะเลมาก ดันธุรกิจโดดเด่นปีนี้ ชี้ยังมีการกักตุนน้ำมันในเรือ ตั้งงบลงทุน 2 พันล้านบาท ขยายกองเรือรองรับความต้องการ มั่นใจรายได้รวมทั้งปี 2566 เติบโตต่อเนื่องกว่า 10%

นายวิริทธิ์พล จุไรสินธุ์  ผู้อำนวยการสายงานการเงินและบัญชี บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ PRM เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมทั้งปี 2566 จะเติบโตต่อเนื่องได้กว่า 10% เมื่อเทียบกับรายได้รวมทั้งปี 2565 หนุนจากทุกกลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจบริการขนส่งทั้งการขนส่งน้ำมัน (FSU) ซึ่ง Utilization Rate ที่เร่งตัวแตะ 100% ตามความต้องการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน (JETA1) ภาคใต้

เนื่องจากไฟล์ตบินที่กลับมาค่อนข้างมาก จากการท่องเที่ยว ณ สิ้นปี 2565 ความต้องการเติบน้ำมัน ณ สนามบินภูเก็ต และกระบี่เร่งตัวแตะ 10 ล้านลิตรต่อวัน จากช่วงก่อนโควิด-19 ที่อยู่ราวกว่า 20 ล้านลิตรต่อวัน ดังนั้นปีนี้ตามประมาณการภาครัฐที่นักท่องเที่ยวจะเร่งตัวแตะ 20.8-30 ล้านคน รวมถึงการที่จีนเปิดประเทศน่าจะเป็นปัจจัยหนุนความต้องการน้ำมัน JETให้เร่งตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งจะกลับไปแตะที่ 20 ล้านลิตรต่อวันได้ โดยเครื่องเช่าเหมาลำจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้มาร์จิ้นของธุรกิจการขนส่งน้ำมันเจ็ทจะสูงกว่าธุรกิจขนส่งน้ำมันอื่น

นอกจากนี้บริษัทยังจะมีการรับรู้รายได้เต็มปีจากการให้บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP ที่เช่าเรือบรรทุกบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่ (VLCC) ทั้งสิ้น 3 ลำ (สัญญาเช่าระยะ 10 ปี), รวมถึงการขนส่งน้ำมันดีเซล-น้ำมันเตา (ขนส่งระยะใกล้) ที่เพิ่มขึ้นมา

ขณะเดียวกันบริษัทได้เตรียมขยายฐานลูกค้าเข้าสู่กลุ่มธุรกิจปิโตรเคมี เพื่อรองรับการขยายกำลังการผลิตของโรงกลั่นทั้งในและต่างประเทศที่มุ่งเน้นไปยังการผลิตปิโตรเคมีมากขึ้น

@ ดีมานด์เรือตุนน้ำมัน

ขณะเดียวกันการให้บริการเรือจัดเก็บสินค้าแบบลอยน้ำ (FSO) บริษัทได้กระจายฐานลูกค้าในอุตสาหกรรมค้าปลีก-ค้าส่งน้ำมันทั่วโลก อาทิ SK Group ประเทศเกาหลี, มิตซุย Group ประเทศญี่ปุ่น, รวมถึง BP บริษัทพลังงานระดับโลกประเทศอังกฤษ

“ธุรกิจ FSUเรือขนส่งขนาดใหญ่ทั้ง 3 ลำมีสัญญาเช่าระยะยาวไม่มีความเสี่ยงทั้งราคาน้ำมันที่เร่งตัวขึ้น และค่าซ่อมบำรุง ส่วนเรือคลังน้ำมันนั้นในภาวะทางรัฐภูมิศาสตร์ยุโรปต้องการความมั่นคงทางพลังงานสูงมาก โดยเฉพาะการที่รัสเซียปิดท่อส่งก๊าซ-น้ำมันคลังน้ำมันบกยิ่งต้องกักเก็บน้ำมันเต็ม ความต้องการเรือคลังน้ำมันจึงเร่งตัวขึ้น ซึ่งกลุ่มประเทศเหล่านี้แม้ว่าจะกักเก็บในไทย แต่ก็จะขนส่งกลับไปใช้ภายในประเทศทั้งสิ้น”

สำหรับธุรกิจการให้บริการเรือกลุ่ม Offshore Supportบริษัทมีเรือพร้อมให้บริการทั้งเรือ Crew Boat จำนวน 13 ลำ, เรือ AWB, และเรือโรงแรม ซึ่งปัจจุบันมีสัญญาเช่าระยะกลางกับ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP

@ ทุ่ม 2 พันล.ขยายกองเรือ

ปัจจุบันบริษัทมีกองเรือรวมทั้งสิ้น 63 ลำ ดังนั้นบริษัทจึงมีแผนการลงทุนกว่า 2 พันล้านบาท ในการขยายกองเรือเพื่อรองรับการเติบโตตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป แบ่งเป็นการต่อเรือขนาดใหญ่ 3-4 ลำในวงเงินราว 1.5 พันล้านบาท และเรือ Crew Boat เพิ่มอีก 2 ลำวงเงินราว 500 ล้านบาท

“การให้บริการเรือ Crew Boat เพื่อสนับสนุนกิจกรรมสำรวจทางทะเล กำลังเป็นที่ต้องการ เพราะ PTTEP ต้องรีบเข้าทำงานทั้งแหล่งขุดเจาะเอราวัณ และแหล่งบงกชจึงอยู่ระหว่างเตรียมปรับสัญญาเช่าให้ยาวกว่า 5 ปี และมีความต้องการเพิ่มทั้งเรือขนส่งพนักงาน และเรือโรงแรม เช่นเดียวกับเรือขนส่งน้ำมันทางทะเลที่มีความต้องการเพิ่มขึ้นเช่นกัน”

ทั้งนี้บริษัทมีสภาพคล่องทางการเงินทั้งกระแสเงินสดรับจากการดำเนินงาน และวงเงินจากสถาบันการเงินขนาดใหญ่มากกว่า 2 แห่ง ดังนั้นจึงไม่มีแผนการเพิ่มทุน และแผนการออกหุ้นกู้ในระยะกลางนี้ เนื่องจากบริษัทมั่นใจว่าจะสามารถบริหารจัดการต้นทุนทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1