#EKH #ทันหุ้น - EKH เผยจีนเปิดประเทศ เอเจนซีแห่ส่งคิวลูกค้าแน่นมือ คาดพุ่งถึง 20-30 รายต่อเดือน กางแผนปี 2566 รายได้โตเหนือ 8-10% จากปีก่อน เล็งผุดอาคารใหม่รองรับการเติบโตของธุรกิจ แย้มสนใจขยายการลงทุนต่อเนื่อง แย้มเจรจา M&A-JV พาร์ตเนอร์ 2-3ดีล

นพ.อำนาจ เอื้ออารีมิตร กรรมการและผู้อำนวยการโรงพยาบาล บริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) หรือ EKH เปิดเผยว่า หลังจากที่ประเทศจีนยกเลิกมาตรการ Zero Covid-19ไปแล้วในช่วงต้นเดือนมกราคม 2566 ที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าส่งอานิสงส์เชิงบวกต่อธุรกิจให้บริการศูนย์ปรึกษาสำหรับผู้มีบุตรยาก (IVF) อย่างมาก ซึ่งหลังจากมีการประกาศดังกล่าวเอเจนซีในประเทศจีนให้การติดต่อเข้ามาเป็นจำนวนมาก

*IVFเฟื่องฟู

แต่เนื่องด้วยปัญหาของเที่ยวบินระหว่างประเทศที่มีไม่เพียงพอต่อความต้องการเดินทาง รวมถึงวันหยุดเทศกาลตรุษจีน ส่งผลให้ในช่วงเดือนมกราคม 2566อาจยังเห็นการเข้ามารับคำปรึกษาของลูกค้าจีนไม่สูงนัก แต่คาดว่าในช่วงเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป การเข้ารับบริการของลูกค้าชาวจีนจะปรบตัวเพิ่มขึ้น เบื้องต้นบริษัทคาดว่าจะมียอดเข้ารับคำปรึกษาเฉลี่ย 20-30รายต่อเดือน ซึ่งอยู่ในระดับใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19

แนวโน้มธุรกิจปี 2566เชื่อว่ามีโอกาสขยายตัวได้เป็นอย่างดี ทั้งในส่วนของรายได้และกำไร เนื่องจากยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากรายได้ที่มาจากโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นตามจำนวนผู้ป่วยนอก (OPD) และผู้ป่วยใน (IPD) รวมทั้งมีแผนขยายศูนย์บริการทางการแพทย์ต่างๆ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถรองรับผู้ป่วยเฉพาะทางที่มีรายได้ต่อหัวที่สูงขึ้น ขณะเดียวกันลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และสามารถรองรับการใช้บริการของประชาชนได้ทั่วถึง

แผนการดำเนินงานในปี 2566 นั้น บริษัทมีแผนขยายศูนย์ไตเทียม ขยายเตียงบริการฟอกเลือด เพิ่มอีก 12 เตียง รวมเป็น 24 เตียง รวมถึงมีแผนสร้างอาคารใหม่ในพื้นที่เดิม เพื่อขยายเตียงเพิ่มจากเดิม 142 เตียงเป็น 200 เตียง ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างทำเรื่องของ EIA ส่วนการเปิดให้บริการโรงพยาบาลคูน ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางและศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ขณะนี้มีอัตราครองเตียงเฉลี่ยที่ 30%

จากปัจจัยที่กล่าวมาเชื่อว่าจะช่วยสนับสนุนให้การเติบโตรายได้และกำไรปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปีนี้ โดยในปี 2566 บริษัทวางเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวมไว้ที่ไม่น้อยกว่า 8-10% จากปีก่อน ปัจจุบันอัตราการครองเตียง (Occupancy Rate) อยู่ในระดับเฉลี่ยที่สูงกว่า 70%อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าในช่วงปีใหม่จะชะลอตัวลงไปบ้าง แต่ในตอนนี้อัตราครองเตียงเริ่มกลับมาอยู่ในระดับที่สูงแล้ว

ขณะเดียวกันบริษัทยังให้ความสนใจในการลงทุนธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับสุขภาพอยู่ ทั้งในรูปแบบ M&A หรือ JV หรือสร้าง Synergy ร่วมกับพาร์ตเนอร์ใหม่ๆ ซึ่งตอนนี้มีที่อยู่ระหว่างการเจรจาร่วมกันอยู่ราว 2-3 ดีล มีทั้งที่อยู่ในตลาดและนอกตลาดแต่ยังไม่สามารถระบุรายละเอียดที่ชัดเจนได้ว่าจะได้ข้อสรุปเมื่อไหร่ เพราะยังเป็นระยะเริ่มต้นของการศึกษาอยู่ สำหรับการแจ้งงบผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2565 คาดว่าจะประกาศในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566

โบรกเชียร์ "ซื้อ"

บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน)  แนะนำ “ซื้อ” EKH ประเมินราคาเป้าหมาย 9.30 บาท คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานยังแข็งแกร่งต่อเนื่องและมีปัจจัยหนุนจากการเปิดประเทศของจีน ซึ่งมีโอกาสที่จะเห็นลูกค้า IVF กลับเข้ามาใช้บริการ ขณะที่การลงทุนในช่วงที่ผ่านมาทั้งใน KLINIQ และรพ.คูนหนุนการเติบโตระยะยาว ซึ่งประมาณการของฝ่ายวิจัยมี Upside

บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด คาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/2565 ทำสถิติสูงสุดใหม่ จากคนไข้ที่ไม่ใช่โควิดฟื้นตัว มีกำไรจากการเข้าถือหุ้น KLINIQ และประสิทธิภาพทา กำไรดีขึ้น เพราะมี Economy of Scale อีกทั้งยังได้ประโยชน์จากการที่จีนเปิดประเทศ เพราะคนไข้จีนนิยมเข้ามาทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) ที่รพ. EKH ซึ่งมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีชื่อเสียงดีในด้านนี้ คงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาพื้นฐาน 10 บาท

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1