#SYNTEC #ทันหุ้น-SYNTEC มองธุรกิจและอุตสาหกรรมปี2566 ฟื้นตัว รุกชิงงานใหม่ 1.05 หมื่นล้านบาท เผยโค้งแรกได้สัญญางานใหม่มาแล้ว 3 โปรเจ็กต์ มูลค่ารวมเกือบ 1.5 พันล้านบาท ชูแบ็กล็อกแน่น 7.1 พันล้านบาท แตกไลน์ธุรกิจติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป คาดเร็วๆนี้ได้ข้อสรุป 2 โครงการ

นายจิรโมท พหูสูตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซินเท็ค คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SYNTEC เปิดเผยว่า ประเมินภาพรวมธุรกิจในปี 2566 มองว่าพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว และมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2565 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ระดับ 5,146.84 ล้านบาท และมีผลกำไรอยู่ที่ -367.79 ล้านบาท หลักๆ เป็นผลมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ ส่งผลให้การลงทุนโครงการต่างๆ ทั้งจากภาครัฐและเอกชนกลับมาเดินหน้าได้มากขึ้น

รุกชิงงานหมื่นล.

โดยช่วง 3 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทได้มีการเซ็นสัญญารับงานโครงการตอกเสาเข็มมาเพิ่มอีก 3 โครงการ ได้แก่ โครงการคอนโดมิเนียม Flexi Mega Space Bangna มูลค่า 20 ล้านบาท, โครงการ Grene Phadipat มูลค่า 64 ล้านบาท และโครงการ Niche Mono BangPo มูลค่า 17 ล้านบาท ทั้งนี้ ในช่วง 6 เดือนแรกของปีของปีนี้มีการเปิดประมูลโครงการลงทุนต่างๆ ออกมาแล้วจำนวนมาก บริษัทได้มีการเข้าร่วมเสนอราคาไปแล้วจำนวน 24 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 10,565 ล้านบาท

และอยู่ระหว่างการเข้าร่วมเสนอราคางานใหม่อีก 3 โครงการ มูลค่ารวมราว 101 ล้านบาท โดยมองว่าในปีนี้บริษัทมีโอกาสที่จะได้รับงานใหม่เข้ามาเติมงานในมือ (Backlog) ที่ค่อนข้างสูง เนื่องจากคู่แข่งขันที่ลดปริมาณลง จากเดิมจะมีราว 6-7 รายต่อโครงการ แต่ปัจจุบันลดลงเหลือเพียง 2-3 รายต่อโครงการเท่านั้น ซึ่งส่งผลให้งานใหม่ที่ได้รับมาจะมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ระดับ 10-12% ต่อโครงการ สูงกว่าในอดีตที่ราว 7-9%

ทั้งนี้ ในปี 2566 บริษัทวางเป้าหมายที่จะหางานโครงการใหม่เข้ามาเติมพอร์ตงานให้ได้เพิ่มอีกอย่างน้อย 6,000-7,000 ล้านบาท จากปี 2565 ที่มีงานเข้ามาในพอร์ต จำนวน 13 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 7,380 ล้านบาท ซึ่งในไตรมาส 1/2566 บริษัทสามารถหางานโครงการก่อสร้างใหม่เข้ามาเติมพอร์ตได้แล้ว 1,473 ล้านบาท ได้แก่ โครงการ The Aestiq มูลค่า 447 ล้านบาท, โครงการ Grande Centre Point Ratchadamri 2 มูลค่า 961 ล้านบาท และโครงการ Wanvayla @ Jaopraya (Sale Office) มูลค่า 65 ล้านบาท

ณ สิ้นปี 2565 บริษัทมีงานในมือรอการทยอยส่งมอบตามกำหนด (Backlog) อยู่ที่ระดับ 7,193 ล้านบาท จากโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างทั้งหมด 24 โครงการ มีสัดส่วนงานโครงการภาครัฐอยู่ที่ประมาณ 39% ของงานทั้งหมดที่มีในมือ สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2566 มองว่าจะมีการเติบโตที่ดีกว่าทั้งเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน 10-15% และเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

แตกไลน์ธุรกิจ

ขณะที่ธุรกิจเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์และธุรกิจให้บริการห้องพัก ประกอบด้วยโครงการซิทาดีนส์ แกรนด์ เซ็นทรัล ศรีราชา (Citadines Grand Central Sriracha) และโครงการซัมเมอร์เซ็ท ฮาเบอร์วิว ศรีราชา (Somerset Harborview Sriracha) ในปี 2566 บริษัทวางเป้าหมายจะมีระดับ อัตราการเข้าพัก (OCC) อยู่ที่ไม่น้อยกว่า 70-75% จากสิ้นปี 2565 อยู่ที่ระดับ 61.38% และ62.10% ตามลำดับ

แผนการลงทุนในปี 2566 บริษัทคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 400 ล้านบาท เพื่อเดินหน้าก่อสร้างโครงการ The Standard Pattaya, Najomtien และโครงการ X2 Vibe Phuket Patong Center อย่างต่อเนื่อง ซึ่งทั้ง 2 โครงการคิดเป็นมูลค่าการลงทุนรวมทั้งสิ้นประมาณ 800 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทได้มีการขยายธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวกับการให้คำปรึกษาและติดตั้งระบบโซลาร์บนหลังคา ที่เริ่มต้นให้บริการไปแล้วในช่วงที่ผ่านมา ในปี 2565 ได้มีการรับงานมาแล้ว 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ Udon Plaza อายุสัญญา 25 ปี และโครงการ Poranunt อายุสัญญา 25 ปี ซึ่งทั้ง 2 โครงการบริษัทเป็นผู้ลงทุนและจำหน่ายไฟฟ้าให้กับเจ้าของโครงการ อีกทั้ง ปัจจุบันบริษัทยังมีงานโครงการติดตั้งระบบโซลาร์บนหลังคาที่อยู่ระหว่างการศึกษาอีกประมาณ 2-3 โครงการ คาดว่าเร็วๆ นี้จะได้ข้อสรุป

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1