SYNTEC ผู้รับเหมาสร้างคอนโดฐานะดี บล.ดีบีเอสฯแนะ “ซื้อ” เป้า 2.03 บ.

#SYNTEC #ทันหุ้น – บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส วิเคราะห์หุ้นของบริษัท ซินเท็ค คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SYNTEC ระบุว่า ภาวะคอนโดที่ฟื้นตัวจากอุปทานที่มีน้อยลง ยังผลให้งานก่อสร้างอาคารสูงกลับมา หลังเงียบหายไป 2-3 ปี มีการเปิดประมูลงานขนาดใหญ่มากกว่า 1 พันลบ.เพิ่มขึ้น ขณะที่ผู้รับเหมาอาคารสูงฐานะการเงินดีมีจำนวนน้อย บริษัทกลับมาประมูลงานได้มากขึ้น YTD เป็น 7 พันลบ.ใกล้เคียงกับตลอดปี 65 แล้ว ปีนี้เป้าเป็น 8 พันลบ.

คงคำแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเหมาะสม 2.03 บาท หลังปี 65 ขาดทุนหนัก -368 ลบ.แต่คาดว่าปีนี้ และปี 67F ฟื้นตัวดีเป็น +66/+129 ลบ.

ธุรกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวสดใส

งานก่อสร้างคอนโดมิเนียมกลับมา SYNTEC ได้ประโยชน์เพราะเป็นหนึ่งในผู้นำผู้รับเหมาก่อสร้าง ประเภทอาคารสูงในประเทศไทย สำหรับช่วงปี 62-65 บ้านแนวราบได้รับความนิยมสูงในช่วงโรคระบาดโควิด-19 การเปิดขายโครงการใหม่ของผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาฯจะเป็นบ้านแนวราบเป็นส่วนใหญ่แต่การเปิดขายคอนโดมิเนียมใหม่กลับมีน้อย จึงยังผลให้อุปทานคอนโดมิเนียมเหลือในตลาดที่น้อยลงไปมาก แต่ปัจจุบันเมื่อกลับมาเปิดเมือง การจราจรที่คับคั่ง ก็ทำให้ความต้องการคอนโดมิเนียมกลับมา เป็นที่น่าสังเกตว่างานประมูลที่มีมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านบาท ได้กลับมาแล้ว จึงเป็นโอกาสทางธุรกิจที่ดีสำหรับ SYNTEC อีกครั้ง

ผู้ประกอบการอสังหาฯจะเลือกผู้รับเหมาที่มีฐานะการเงินวางใจได้

นอกจากจำนวนผู้รับเหมาก่อสร้างอาคารสูง ที่ลดน้อยลงไปในช่วง โรคระบาดโควิด-19 จากงานที่ออกมาน้อยแล้ว ทางผู้ประกอบการอสังหาฯจะเลือกผู้รับเหมาที่มีฐานะการเงินวางใจได้ เพราะจะได้ไม่ทิ้งงานไป ระหว่างที่การก่อสร้างยังไม่เสร็จ สำหรับทาง SYNTEC ก็มีฐานะการเงินดี ณ สิ้นงวด 2Q66 อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนเป็นเพียง 0.3 เท่า และมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน 1H66 เป็น +484 ล้านบาท สูงขึ้นเทียบกับ y-o-y ที่ -19 ล้านบาท อีกทั้งการที่ SYNTEC เคยทำงานก่อสร้างให้กับบจ.ในกลุ่มอสังหาฯ เช่น LH, AP, SENA, SC, PSH และกลุ่มเซ็นทรัล จึงได้รับความไว้วางใจ จึงมีโอกาสจะได้รับงานประมูลคอนโดมิเนียมที่จะเกิดมากขึ้นในอนาคต

กลับมาประมูลงานได้มากขึ้น Backlog กลับมาสูง YTD

ประมูลงานได้เป็น 7 พันล้านบาท ใกล้เคียงกับตลอดปี 65 แล้วที่ 7.1 พันล้านบาท ปีนี้วางเป้าการประมูลงานทั้งปีเป็น 8 พันพันล้านบาท ก็มีโอกาสที่จะทำได้เกินเป้าหมาย เนื่องจากยังเหลือระยะเวลาอีกราว 4 เดือน กว่าจะหมดปี 66 หากพิจารณางานก่อสร้างในมือ (Backlog) ณ สิ้นเดือน ก.ค.66 สูงเป็น 10.5 พันล้านบาท เทียบกับสิ้นปี 64 และปี 65 ที่ 4.4 และ 7.2 พันล้านบาท เท่านั้น นอกจากนี้หากเทียบกับประมาณการรายได้ก่อสร้างปี 66 Backlog มีการรองรับแล้ว 90% ที่เหลือจะมาจากงานก่อสร้างที่ประมูลได้ใหม่ และยังเหลือ Backlog อีก 7.5 พันล้านบาทที่จะรับรู้ไปอีก 2-3 ปีข้างหน้า

อัตรากำไรขั้นต้นกลับมาฟื้นตัวดีขึ้น ในรอบ 1H66

อัตรากำไรขั้นต้นการก่อสร้างเพิ่มเป็น 3.3% จาก y-o-y ที่ -7.6% ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นการให้เช่าโรงแรมและอพาร์ทเม้นต์เป็น 31.1 % จาก y-o-y ที่ 9.8% ยังผลให้อัตรากำไรขั้นต้นรวมฟื้นตัวเป็น 5.0% จาก y-o-y ที่ -5.8%แต่อัตรากำไรขั้นต้นจากการประมูลงานใหม่ขนาดนี้เพิ่มไปถึง 12% เพราะงานก่อสร้างใหม่ให้อัตรากำไรขั้นต้นมากขึ้น จึงมีสมมุติฐานให้อัตรากำไรขั้นต้นรวมปีนี้ และปี 67F เพิ่มเป็น 6.0% และ 7.7% ตามลำดับ เทียบกับปี 65 ที่ 1.2% สำหรับงานขนาดก่อสร้างขนาดใหญ่ที่เป็นตัวแปรสำคัญคือ งานศูนย์ราชการที่มีมูลค่าสูงถึง 4พันล้านบาทซึ่งให้อัตรากำไรขั้นต้นไม่สูงนักราว 5.0% จะก่อสร้างเสร็จราวกลางปี 67F จึงยังผลให้อัตรากำไรขั้นต้นในปี 67F ดีขึ้นกว่าปี 66F

คงคำแนะนำ “ซื้อ” หลังปี 65 ประสบภาวะขาดทุนสุทธิหนักมากถึง -368 ลบ. เนื่องจากได้รับผลกระทบจากโรคระบาดโควิด-19 แต่คาดว่ากำไรสุทธิปีนี้และปี 67F จะฟื้นตัวดีขึ้นเป็น +66/+129 ล้านบาท ตามลำดับ สืบเนื่องจากรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตามในปีนี้มีกำไรพิเศษจากการกลับรายการสำรองโครงการ Sky Walk ในงวด 1Q66 มากถึง60 ล้านบาท หากไม่นับกำไรหลักปีนี้จะเป็นเพียง 1 ล้านบาท ส่วนปี 67F กำไรหลักเป็น 124 ล้านบาท อย่างไรก็ตามได้มีการปรับประมาณการลงสำหรับปีนี้ -17% และปีหน้า + 36% ซึ่งสมมุติฐานที่ปรับเปลี่ยนคือ อัตรากำไรขั้นต้นให้ด้อยลง แต่สัดส่วนค่าใช้จ่ายขาย-บริหารเทียบกับรายได้อ่อนลง

ประเมินราคาพื้นฐานเป็น 2.03 บาท ด้วย P/BV ปี 66F ที่ 0.6 เท่า ซึ่งเทียบเท่า P/E ปีนี้และปี 67F ที่ 49.2 และ 24.9 เท่า ตามลำดับ ส่วนข้อดีเพิ่มเติมคือ 1 บริษัทมีส่วนประหยัดภาษี (tax shield) ราว 200 ล้านบาท ยังผลให้ภาษีเงินได้ปีนี้และปีหน้าเป็นศูนย์ และ 2) มีเงินลงทุนใน BEM ที่ต้นทุนต่ำจำนวน 75.1 ล้านหุ้น คาดว่าจะมีกำไรที่ยังไม่รับรู้อีก 252 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.16 บาท ต่อ 1 หุ้น SYNTEC