นายเหอ จือ หวง ผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท ไดเมท (สยาม) จำกัด (มหาชน) หรือ DIMET เปิดเผยกับ "ทันหุ้น" ถึงประเด็นศึกชิงอำนาจในบริษัท DIMET ว่า ต้องการเรียกร้องความเป็นธรรม จากการที่ไม่สามารถส่งกรรมการเข้าไปในบริษัทได้ ทั้งๆ ที่เป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 1 (จำนวน 394 ล้านหุ้น สัดส่วน 16.18%) และที่ผ่านมาได้เข้าไปบริหารงานในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แต่ได้ลาออกเพื่อที่จะปรับโครงสร้างการถือหุ้นเมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ เมื่อปรับโครงสร้างเสร็จกลับไม่สามารถเข้าไปบริหารได้ ช่วงเวลาเดียวกันนี้ได้มีข่าวออกมากล่าวหาว่าเป็น "จีนเทา" ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น และการดำเนินการต่างๆ ไม่รู้ว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร โดยพร้อมใช้เวทีการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น DIMET วันที่ 6 มิถุนายนนี้ ในการกลับเข้าไปพลิกฟื้นบริษัท
นายเหอ จือ หวง ยืนยันว่า ตนไม่ได้เป็นจีนเทา และไม่ได้ทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย เดิมทีเป็นชาวไต้หวัน เข้ามาทำงานในไทยเมื่อปี 2547 ในธุรกิจถุงมือยาง โดยมีรุ่นพี่ที่เรียนจบเชิญร่วมงาน ซึ่งบริษัทได้เติบโตอย่างรวดเร็วและสามารถเข้าตลาดหลักทรัพย์ไต้หวันได้ในปี 2558 ทำให้มีกำไรจากการถือหุ้นเข้าตลาดหลักทรัพย์ที่ไต้หวัน หลังจากนั้นก็มีการลงทุนหลายธุรกิจ ทั้งเทรดน้ำยาง และเข้ามาธุรกิจถุงมือยางไม่ใช่จีนเทา มีการแต่งงานกับภรรยาไทย มีลูก 4 คน จนได้รับสัญชาติไทย ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน เพิ่งได้รับสัญชาติปีที่ผ่านมา
ก่อนที่จะเข้ามาซื้อหุ้น DIMET ได้ผ่านการ KYC หรือ Know Your Customer หรือกระบวนการทำความรู้จักกับลูกค้าผ่านการยืนยันตัวตน ผ่านทั้งที่ปรึกษาทางการเงิน และสำนักงานกฎหมาย เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้อย่างดีถึงความมีตัวตนที่โปร่งใส
สำหรับการเข้าลงทุน DIMET นั้นเกิดขึ้นปี 2564 เพราะต้องการเข้ามาพลิกฟื้น DIMET ให้เทิร์นอะราวด์ จากที่ขาดทุนมาโดยตลอด จึงเข้าซื้อหุ้นจากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมในราคาเฉลี่ยหุ้นละ 0.59 บาท และได้มีการเข้าไปเก็บกวาดบ้าน ชำระหนี้ให้ด้วย ทำให้เป็นบริษัทที่คลีน โดยช่วงนั้นได้เห็นว่าธุรกิจถุงมือยางมีกำไรที่ดีจึงสนับสนุนให้ DIMET เข้าลงทุนในบริษัทนี้เพื่อที่จะพลิกฟื้นกลับคืนมา แต่ด้วยภาวะโควิดที่ลดลงทำให้ราคาถุงมือยางลดลง ไม่เป็นไปอย่างที่ตั้งใจ
อย่างไรก็ตามตนมีแนวทางที่จะพลิกฟื้นให้บริษัทกลับมามีกำไร จากการสำรวจพื้นฐานพบว่า DIMET มีพื้นฐานดี มีพนักงานที่เก่าแก่ที่มีประสบการณ์ ความรู้ มีผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง มีเทคโนโลยีจากออสเตรเลีย แต่ที่ผ่านมาผู้บริโภคอาจจะยังไม่รู้จัก ดังนั้นจนก็มีมีแนวทางในด้านการนำเทคโนโลยีใหม่ ตลาดใหม่ วัตถุดิบใหม่มาเสริม เพื่อที่จะให้สามารถผลิตสีให้ทันสมัย ขณะเดียวกันก็ยังเตรียมแผนที่จะนำธุรกิจที่เกี่ยวพันกับเทคโนโลยี เป็นเมกะเทรนด์ เข้ามาสร้าง S-CURVE ให้กับบริษัทด้วย แต่ยังเปิดเผยไม่ได้ ณ ขณะนี้
ส่วนกรณีที่ผู้สอบบัญชีไม่ได้ให้ข้อสรุปงบการเงิน นับเป็นเรื่องทางเทคนิค เนื่องจากบริษัทที่เข้าลงทุนผลิตถุงมือยาง เป็นบริษัทจำกัด รอบปิดบัญชีเป็นรอบเดียว และบริษัทถือหุ้นอยู่ 30% จึงไม่สามารถที่จะประสบความสำเร็จในการขอผู้ถือหุ้นใหญ่ให้ปิดงบทุกไตรมาสได้ อาจเพราะด้วยค่าใช้จ่าย แต่ยืนยันบริษัทนี้จ้าง KPMG เป็นผู้สอบบัญชี ซึ่งมีแนวทางแก้ไข 3 แนวทางทั้งการ ซื้อหุ้นเพิ่ม ขายหุ้นออก และนำธุรกิจใหม่เข้ามาทำให้มีสัดส่วนรายได้มากกว่าถุงมือยาง
นายเหอ จือ หวง ระบุว่า ไม่ทราบว่าทำไมกรรมการปัจจุบันจึงไม่ยอมให้เข้าไปทั้งๆ ที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ มีส่วนได้ส่วนเสียมากสุด ซึ่งจากวาระการคัดเลือกกรรมการทางกลุ่มได้เสนอรายชื่อกรรมการเข้าไปด้วย แต่ก็งงว่าทำให้ การประชุม EGM ครั้่งนี้ไม่มีรายชื่อที่เสนอเข้าไปสักคนเดียว ส่วนกระแสข่าวมีการขอใบมอบฉันทะนั้น ก็น่าสงสัย ดังนั้นจึงต้องการให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยเข้าไปประชุมด้วยตัวเอง ไม่ควรมอบฉันทะให้ใคร เพราะเป็นสิทธิผู้ถือหุ้น และที่ผ่านมาก็มีข้อสังเกตในด้านการสถานที่ประชุม จากสนามกอล์ฟบางปู มาเป็นที่โรงงาน และเปลี่ยนเวลาจาก 9 โมงเป็น 8 โมงเข้า ซึ่งอาจจะทำให้ผู้ถือหุ้นไม่สะดวกที่จะเดินทางไป อยากให้ผู้ถือหุ้นสังเกตเรื่องนี้ด้วย
ขณะเดียวกันยังต้องติดตามวาระการประชุม ซึ่งเดิมมีวาระการเพิ่มทุนเฉพาะเจาะจง (PP) และการเพิ่มทุนจากผู้ถือหุ้นเดิม (RO) อยู่แต่ก็มีการถอนวาระออกไป ซึ่งกังวลว่าจะมีการปรับมาสู่การขออำนาจแบบเป็นการทั่วไปหรือไม่ ดังนั้นนักลงทุนต้องติดตาม โดยเฉพาะการเพิ่มทุนที่ต้องมีวัตถุประสงค์ชัดเจน ไม่ควรอนุมัติการขออำนาจเป็นการทั่วไป
“ผมให้ฐานะผู้หุ้นอันดับ 1 มีส่วนได้ส่วนเสียในบริษัทมากสุด และยังขาดทุนอยู่ มีความตั้งใจที่จะพลิกฟื้นให้บริษัทมีกำไร ซึ่งก็แปลกที่ถูกขัดขวาง จากผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียน้อยกว่า ดังนั้นขอให้ผู้ถือหุ้น อย่ามอบพร็อกซี่ พยายามเข้าไปประชุมครั้งนี้ เหมือนการเลือกตั้ง อย่ามอบสิทธิให้ใคร”
ด้านนางอัญญา ถาวรนันท์ เลขานุการบริษัท DIMET ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า จากกรณี บริษัท ที.เอช.เอส. รับเบอร์ อินดัสทรี จำกัด ฟ้องให้การประชุมผู้ถือหุ้นเป็นโมฆะ โดยยืนยันว่า บริษัทฯ ได้จัดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 โดยปฏิบัติตามกฎหมาย และกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องทุกประการ รวมถึงอ้างอิงรายชื่อผู้ถือหุ้นผู้มีสิทธิเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 ณ วันที่ 3 เมษายน 2566 (Record Date) ตามที่ได้รับข้อมูลจากบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นนายทะเบียนของบริษัทฯ
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม