#NDR #ทันหุ้น – NDR ลุ้นครึ่งปีหลังผลงานเทิร์นอะราวด์ รับต้นทุนวัตถุดิบลด หนุนมาร์จิ้นพุ่ง บิ๊กอส “ชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา” ลั่นออเดอร์อินเดียไหลเข้า คาดยอดขายแตะ 10 ล้านบาท พร้อมดันกำลังผลิตเพิ่มขึ้นชน 90% จากปัจจุบันที่ 70% พร้อมอัพเป้ายอดขายทั้งปีทะลุ 1 พันล้านบาท

นายชัยสิทธิ์  สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ดี. รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NDR เปิดเผยว่า คาดทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลัง 2566 จะดีกว่าครึ่งปีแรก และมีแนวโน้มจะเทิร์นอะราวด์ หรือพลิกเป็นบวก หลังบริษัทเห็นสัญญาณต้นทุนวัตถุดิบทรงตัว จากก่อนหน้านี้ราคาวัตถุดิบปรับตัวสูง และค่อยๆ ปรับลดลงในปลายไตรมาส 1 จนกระทั่งไตรมาส 2 ขณะเดียวกันคาดว่าไตรมาส 3 จะเห็นต้นทุนใหม่ที่ปรับตัวลดลง และยาวไปถึงไตรมาส 4 อย่างไรก็ตามต้นทุนที่ลดลงยังไม่ได้ลงเท่ากับก่อนหน้านี้ แต่เป็นเทรนด์ขาลง

** รับออเดอร์อินเดีย

ขณะที่คำสั่งซื้อ (ออเดอร์) ในช่วงครึ่งปีหลัง 2566 มีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นจากครึ่งปีแรก เพราะมีออเดอร์จากอินเดียเข้ามา และจะเริ่มส่งล็อตแรกในเดือนสิงหาคมนี้ โดยมูลค่างานล็อตแรกจะอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านบาท สำหรับออเดอร์อินเดียบริษัทเซ็นสัญญาแล้วก่อนหน้าโควิด และหยุดไปหลังจากโควิดระบาด ปัจจุบันสถานการณ์ดังกล่าวคลี่คลาย ลูกค้าอินเดียจึงเริ่มส่งออเดอร์ให้บริษัทผลิต

ทั้งนี้บริษัทคาดทิศทางออเดอร์จะทยอยเพิ่มขึ้นทีละเดือน และน่าจะมีการผลิต หรือมีมูลค่าแตะ 10 ล้านบาทแต่เดือนได้ประมาณปลายปีนี้จนถึงต้นปี 2567 และคาดกำลังผลิตครึ่งปีหลังนี้จะเพิ่มขึ้นแตะ 85-90% จากก่อนหน้านี้อยู่ที่ 70% อีกทั้งในครึ่งปีหลัง 2566 จะเห็นภาพการใช้โซลาร์เซลล์เต็มประสิทธิภาพ โดยมีกำลังผลิตไฟอยู่ที่ 3 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น การติดตั้งโซลาร์จากก่อนหน้านี้ 1 เมกะวัตต์ และติดตั้งล่าสุด 2 เมกะวัตต์

อย่างไรก็ตามบริษัทมองสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมยังไม่ฟื้นตัวมากนัก เพราะต่างประเทศมีประเด็นเรื่องสงคราม และอัตราแลกเปลี่ยน ขณะที่ในประเทศมีเรื่องปัจจัยการเมืองกดดันเศรษฐกิจ

** อัพเป้ายอดขาย

สำหรับยอดขายรวมปีนี้ บริษัทจะทบทวนเป้ามายยอดขาย เนื่องจากก่อนหน้านี้บริษทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 900-1,000 ล้านบาท ไม่รวมกับออเดอร์อินเดีย ทั้งนี้สัดส่วนการขายสินค้า คาดจะมาจากการส่งออก ต่างประเทศอยู่ที่ 55% และขายในประเทศอยู่ที่ 45%

บริษัทคาดอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) และอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ปีนี้จะดีกว่าปีก่อน จากการบริหารต้นทุน และลดค่าใช้จ่ายในองค์กร สำหรับกลยุทธ์ช่วงที่เหลือปีนี้บริษัทเน้นขยายตลาดยางรถจักรยานยนต์ ที่ไม่มียางใน เพราะเป็นสินค้ามาร์จิ้นสูง ซึ่งบริษัทมองว่ามีความนิยมมากขึ้น ยังมีโอกาสเติบโตเเละรักษาตลาดในประเทศ เเละยังขยายไปยังประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น

นายชัยสิทธิ์ กล่าวก่อนหน้านี้ว่า บริษัทร่วมทุนกับ บริษัท อีทราน (ไทยแลนด์) จำกัด หรือ ETRAN โดยบริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 35% ปัจจุบันได้เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 45 ล้านบาท เป็น 75 ล้านบาท รวมถึงอยู่ระหว่างดําเนินการเปิดให้บริการ Swap Station เพิ่มเติม และยังมีแผนที่จะปรับปรุงคุณสมบัติรถและชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าอีกด้วย รวงถึงอยู่ระหว่างการเจรจาทางธุรกิจกับนักลงทุนรายใหม่ นอกจากนี้อยู่ระหว่างดำเนินการขั้นตอนต่างๆ เพื่อเข้าโครงการส่งเสริมของภาครัฐ

อนึ่ง 3 เดือนแรกปี 2566 บริษัทมียอดขายแล้วที่ 205.45 ล้านบาท และมีผลขาดทุน 7.51 ล้านบาท

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=