นายบุญศักดิ์ เกียรติจรูญเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คัมเวล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KUMWEL ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สำหรับระบบต่อลงดิน, ระบบป้องกันฟ้าผ่า, ระบบป้องกันเสิร์จ, ระบบตรวจจับและแจ้งเตือนฟ้าผ่า และนวัตกรรม เปิดเผยว่า แผนธุรกิจช่วงครึ่งปีหลัง 2566 บริษัทจะเร่งขายสินค้านวัตกรรม หลังจากบริษัทร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ด้านการวิจัยการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อระดมองค์ความรู้ความสามารถในการวิจัยและพัฒนาด้านนวัตกรรมสำหรับโครงการ Digital Plant ของ กฟผ.
ขณะที่ปัจจุบันบริษัทเจรจากับหน่วยงานราชการ รวมถึงกลุ่มธุรกิจอื่นๆ อาทิ กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม กลุ่มพลังงาน Oil&Gas ที่ต้องการปรับปรุงระบบต่อลงดิน หรือระบบป้องกันฟ้าผ่า โดยคาดสัดส่วนรายได้จากสินค้านวัตกรรมจะอยู่ที่ 20% ของรายได้รวมทั้งหมด ขณะเดียวกันบริษัทจะขยายฐานลูกค้าไปต่างประเทศ โดยสถานการณ์โควิดปัจจุบันเริ่มคลี่คลาย และสามารถเดินไปร่วมงานแสดงสินค้าต่างประเทศได้แล้ว ดังนั้นบริษัทจะเริ่มขยายฐานออกไปต่างประเทศ เช่น ประเทศตะวันออกกลาง เป็นต้น
“ครึ่งปีแรก 66 สถานการณ์โควิดยังคลุมเครือ แต่ตอนนี้เริ่มคลี่คลายแล้ว เราเองก็สามารถเดินทางต่างประเทศได้แล้ว อย่างช่วงนี้เราจะเดินทางไปร่วมงานแสดงสินค้าที่เวียดนาม และมีแผนขยายฐานออกไปยังประเทศอื่นๆ เพิ่มเติม” นายบุญศักดิ์ กล่าว
ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ หรือ Backlog รวมอยู่ที่ 140 ล้านบาท แบ่งเป็น สินค้าเดิม 100 ล้านบาท และสินค้านวัตกรรมราว 30-40 ล้านบาท คาดจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ช่วงที่เหลือจำนวนมาก
อย่างไรก็ตามบริษัทมองอุตสาหกรรมและความต้องการใช้สินค้านวัตกรรมโครงการ Digital Plant เป็นตลาดใหญ่ อีกทั้งปัจจุบันธุรกิจเกี่ยวกับดิจิทัลกำลังเป็นกระแส และต้องการอุปกรณ์ป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายระหว่างดำเนินธุรกิจ ดังนั้นคาดว่าโครงการ Digital Plant จะตอบโจทย์ธุรกิจและความต้องการป้องกันความเสียหาย
โครงการ Digital Plant ประกอบไปด้วย ระบบการจัดการป้องกันฟ้าผ่าอัจฉริยะ (Smart Lightning Management System), ระบบแจ้งเตือนฟ้าผ่าความแม่นยำสูงอัจฉริยะ (Smart High Precision Lightning Warning System) เพื่อความปลอดภัยของการปฏิบัติงานในที่โล่งแจ้ง, ระบบตรวจจับความถี่คลื่นเสียงด้วยออฟติกไฟเบอร์ (Distributed Acoustic Sensing : DAS) เพื่อใช้ในการตรวจจับผู้บุกรุก / ระบบตรวจจับอุณหภูมิของเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆ ในระบบผลิตและจำหน่ายด้วยออฟติกไฟเบอร์ (Distributed Temperature Sensing : DTS) เพื่อทดแทนกำลังคน
นายบุญศักดิ์ กล่าวต่อว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 20% ต่อจากปีก่อนที่มีรายได้ 561.83 ล้านบาท บริษัทวางเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนตามองค์การสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals) มี 17 เป้าหมาย แบ่งเป็น 5 มิติ บริษัทได้นำมาโครงการมาต่อยอดจากโครงการ CSV สู่ความร่วมมือกับเครือข่ายพันธมิตร เช่น MOU กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ในการทดสอบติดตั้ง ร่วมกันพัฒนานวัตกรรมระบบการจัดการป้องกันฟ้าผ่าอัจฉริยะ, นวัตกรรมระบบแจ้งเตือนฟ้าผ่าอัจฉริยะ และนวัตกรรมระบบตรวจจับการบุกรุกด้วยสายไฟเบอร์ออพติก ซึ่งปัจจุบันยังคงดำเนินการพัฒนาเพื่อนำไปสู่การรองรับการใช้งานผลิตภัณฑ์ บริษัทเล็งขยายผลทางธุรกิจส่วนนี้ไปทั้งในและต่างประเทศ อนึ่ง 3 เดือนแรกปี 2566 บริษัทมีรายได้แล้วที่ 129.15 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 8.58 ล้านบาท
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม