#JDF #ทันหุ้น – JDF ตั้งเป้ารายได้ปี 2566 เติบโต 20% จากปีก่อนที่ทำได้ 579.35 ล้านบาท จากการมุ่งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์และขยายตลาดเพิ่มขึ้น รวมถึงมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าหลัก นอกจากนี้จะเร่งเพิ่มกลุ่มสินค้าร้านอาหารและโรงแรม มองว่ามีศักยภาพสูง และคาดว่าปี 2568 รายได้จะแตะ 1,000 ล้านบาท

นางสาวรัตนา เอี้ยประเสริฐศักดิ์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจดีฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ JDF หนึ่งในผู้นำธุรกิจด้านนวัตกรรมอาหารที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเครื่องปรุงรสและอาหารแปรรูปมายาวนานกว่า 20 ปี ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีลูกค้ามากกว่า 300 ราย และมีรสชาติกว่า 2,000 รสชาติ เปิดเผยว่า บริษัทยังมั่นใจว่าผลการดำเนินงานปี 2566 จะเติบโต 20% ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

โดยในช่วงครึ่งปีแรก 2566 บริษัทมีรายได้ 303.37 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น 7.60% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและมีสัดส่วนยอดขายต่างประเทศอยู่ที่ 24% ขณะที่ยอดขายในประเทศ 76%และมีสัดส่วนประเภทผลิตภัณฑ์ของสินค้ารับจ้างผลิตอยู่ที่ 87%โดยสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัทเองอยู่ที่ 13%

ชูเป้ารายได้แตะพันล.

ขณะที่ในปี 2565 บริษัทมีรายได้รวมทั้งหมด 579.53 ล้านบาท ลดลง 1.05% เนื่องจากได้รับผลกระทบที่รัฐบาลของประเทศจีนยังคงใช้นโยบายปิดประเทศ ทำให้บริษัทมีรายได้ต่างประเทศลดลง และมีลูกค้าบางส่วนชะลอการสั่งสินค้าเข้าไป หรือตัดสินใจเลื่อนแผนการสั่งสินค้า ซึ่งบริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตในปี 2568 ที่ 1,000 ล้านบาท

สำหรับทิศทางผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง 2566 บริษัทยังคงมุ่งเน้นรักษาฐานลูกค้าเดิม และมุ่งเน้นผลิตสินค้าให้ตรงความต้องการกับลูกค้ามากที่สุด โดยฐานลูกค้าของบริษัทเป็นกลุ่มประเทศ CLMV รวมถึงภูมิภาคเอเชีย จีน เกาหลี ญี่ปุ่น

ส่วนตลาดที่บริษัทได้ขยายออกไปน่าจะเป็นอเมริกาเหนือ หรือ ทวีปยุโรป ปัจจุบันประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจ บริษัทจะใช้กลยุทธ์ในการนำเสนอสินค้า Value for Money เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน และสร้าง New S-Curve เพื่อสร้างยอดขาย การร่วมมือกับตัวแทนจำหน่ายในแต่ละประเทศ

พร้อมทั้งสร้างแบรนด์ให้มีคุณภาพสูงสุด และเพิ่มกำลังการผลิต เพื่อลดต้นทุน และรักษาสมดุลในการสร้างแบรนด์ของตัวเองในสัดส่วน 20% และการรับจ้างผลิตอีกประมาณ 80% เพื่อความยั่งยืน สำหรับยอดขายแบรนด์ของบริษัทเองบริษัทตั้งเป้าการเติบโตในปี 2568 ที่ 20% ของยอดขายรวม

ลุยต่อยอดตลาด CLMV

นอกจากนี้บริษัทยังจะเน้นการเติบโตในกลุ่มสินค้า ร้านอาหารโรงแรม ซึ่งจะเน้นไปยังตลาด CLMV และมีตลาดในประเทศกัมพูชา ที่บริษัทมองว่ามีศักยภาพสูงในการเติบโต

ส่วนอัตราการใช้กำลังการ (Utilization Rate) โดยรวมทั้งกลุ่มในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 37% ซึ่งยังถือว่าอัตราการใช้กำลังการผลิตยังเหลืออีกมาก ปัจจุบันบริษัทมี 3 ส่วนการผลิต อาทิ เครื่องปรุงอาหาร จากกำลังการผลิตรวมทั้งหมด 10,000 ตันต่อปี ซึ่งปัจจุบันใช้อัตรากำลังการผลิตอยู่ที่ประมาณ 35-40%

ทางด้านขนมมีกำลังการผลิตรวมทั้งหมด 600 ตันต่อปี ปัจจุบันผลิตอยู่ที่ 80% และอาหารอบแห้ง บริษัทมีกำลังการผลิตรวมทั้งหมด 400 ตันต่อปี ปัจจุบันใช้อัตรากำลังการผลิต เกือบเต็มอัตรากำลังการผลิต

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1