#SAK #ทันหุ้น-SAK คงเป้าพอร์ตสิ้นปี 66 แตะ 1.24-1.25 หมื่นล้านบาท จาก 9 เดือนแรกปีนี้ทำได้แล้ว 1.18 หมื่นล้านบาท ยิ้มโค้งท้าย NPL ต่ำเกณฑ์ 2.5% หลังตัดขายหนี้เสียออก กางแผนปี 67 พอร์ตโต 15% ต่อเนื่อง หรือแตะที่ระดับ 1.4 หมื่นล้านบาท เล็งแตกไลน์ผลิตภัณฑ์สินเชื่อเกี่ยวข้องพลังงานทดแทนใหม่เพิ่ม พร้อมขยายสาขาใหม่อีก 40-50 แห่ง

นายศิวพงศ์ บุญสาลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศักดิ์สยามลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SAK ผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อยภายใต้แบรนด์ “ศักดิ์สยามลิสซิ่ง” เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทยังคงเป้าหมายหมายเติบโตของพอร์ตสินเชื่อคงค้างในช่วงสิ้นปี 2566 ไว้ที่ไม่น้อยกว่า 15% จากปีก่อน หรือแตะที่ระดับกว่า 12,400-12,500 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 9เดือนแรกของปีนี้พอร์ตสินเชื่อของบริษัททำได้อยู่ที่ระดับ 11,857 ล้านบาทแล้ว

*กดNPLต่ำ2.5%

โดยคาดว่ายอดการปล่อยสินเชื่อใหม่ในช่วงไตรมาส 4/2566จะยังคงทรงตัว หรืออาจปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากบริษัทยังคงต้องให้ความระมัดระวังด้านคุณภาพลูกหนี้ เพื่อไม่ก่อให้เกิดหนี้สงสัยจะสูญ (NPL) ใหม่ที่เพิ่มขึ้นในอนาคต ปัจจุบันบริษัทยังคงรักษาระดับไว้ได้ค่อนข้างดี ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้มีการตัดจำหน่ายหนี้สูญออกไปได้แล้วจำนวนหนึ่ง

ซึ่ง NPL ที่ตัดจำหน่ายออกไปนั้น เป็นกลุ่มลูกหนี้ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ 2563-2565 ส่งผลบริษัทให้คาดว่า NPL ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2566 นี้ อาจปรับตัวลดลงจากเมื่อเทียบกับในช่วงสิ้นไตรมาส 3/2566 ที่อยู่ที่ระดับ 2.5% ขณะที่อัตราการยึดรถนั้น ปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ระดับประมาณ 100-200 คันต่อเดือน แต่ก็จะมีการทยอยจำหน่ายออกไปอย่างต่อเนื่อง ทำให้ในตอนนี้ยังมีรถยึดคงค้างในมือ (Inventory) อยู่ที่ราว 400 คัน

การจำหน่ายรถยึดหลังจากนี้อาจต้องประเมินสถานการณ์อีกครั้ง เนื่องจากราคารถมือ 2ค่อนข้างหดตัวลงอย่างมาก หลังจากที่สถาบันการเงินและผู้ให้บริการสินเชื่อรายอื่นๆ ทยอยจำหน่ายรถยึดออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก ทำให้ซัพพรายในตลาดตอนนี้ค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับดีมานด์ที่ขยายตัวตามไม่ทันจึงไปกระทบกับราคาจำหน่าย ในส่วนของเรื่องในทุนทางการเงินนั้น มองว่าปัจจุบันยังอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ และคาดว่าในปี 2567จะไม่ไม่ขยายตัวไปกว่านี้

แนวโน้มสินเชื่อเพื่อการติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อปสำหรับที่อยู่อาศัย ภายใต้การบริหารของบริษัทย่อย บริษัท ศักดิ์สยาม ทีซี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด หรือ STC ที่ SAK มีสัดส่วนถือหุ้น 49.22% นั้น ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 มียอดจำหน่ายและติดตั้งไปแล้วกว่า 300 หลังคา ซึ่งกว่า 70-80%ของยอดขายลูกค้ามีความต้องการขอสินเชื่อด้วย ทำให้พอร์ตสิ้นเชื่อในส่วนดังกล่าวทำได้แล้วที่ราว 40 ล้านบาท และคาดว่าในช่วงที่เหลือปีนี้จะมียอดขายและการติดตั้งกว่า 50 หลังคา

สินเชื่อโดรนเพื่อการเกษตรในปี 2566 คาดว่าจะมียอดขายไม่น้อยกว่า 50-60 ลำ และสามารถสร้างการรับรู้รายได้ให้กับบริษัทที่ประมาณ 30-40 ล้านบาท ทั้งนี้ สัดส่วนกว่า 60% ของรายได้ดังกล่าวมาจากการให้บริการฉีดพ้นยา โดยในปี 2567คาดว่ารายได้จากการให้บริการการฉีดพ้นยาจะเติบโตได้สูงถึง 2-3 เท่า จากปีนี้

**ปี67เปิด50สาขา

แผนการดำเนินงานในปี 2567 บริษัทวางเป้าหมายการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อคงค้างไว้ที่ระดับไม่น้อยกว่า 15% จากปีก่อน หรือพอร์ตแตะที่ระดับมากกว่า 14,000 ล้านบาท โดยในปีหน้าบริษัทมีแผนจะเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์สินเชื่อใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยจะมุ่งเน้นในส่วนที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทดแทนเพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ช่วยประชาชนลดภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือนและการประกอบกิจการลงได้

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะเปิดสาขาใหม่อีกประมาณ 40-50 สาขา โดยจะเริ่มเห็นหลังจากช่วงไตรมาส 2/2567 เป็นต้นไป จากสิ้นปี 2566ที่บริษัทมีสาขาที่เปิดให้บริการรวมทั้งสิ้น จำนวน 1,029 สาขา กระจายใน 41 จังหวัดทั่วประเทศไทย