> mai > TMILL

26 ธันวาคม 2023 เวลา 08:48 น.

TMILL ท้ายปีบริโภคคึกคัก อัพกำลังผลิตแตะ75%

#TMILL #ทันหุ้น - TMILL ส่งสัญญาณช่วงปลายปีไฮซีซันหนุนการจับจ่ายใช้สอย มองการบริโภคภายในขยายตัวดีขึ้น พร้อมเกาะติดปัจจัยภายใน และต่างประเทศ คาดอัตราการใช้กำลังผลิตปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5% อยู่ที่ 75% แย้มต้นทุนวัตถุดิบยังผันผวน


นางแววตา  กุลโชตธาดา ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บริษัท ที เอส ฟลาวมิลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TMILL เปิดเผยว่า ประเมินธุรกิจในปี 2567 ยังคงต้องติดตามหลายปัจจัยทั้งภายนอกและภายในประเทศอย่างใกล้ชิด ทั้งเรื่องของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ กำลังซื้อและการท่องเที่ยวต่างๆ ว่าจะมีความชัดเจนมากน้อยเพียงใด ปัญหาการหาข้อยุติของการเกิดสงคราม ซึ่งบริษัทก็มีความคาดหวังว่าในปีหน้าสถานการณ์ต่างๆ จะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น แม้อาจต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งในการฟื้นฟู


** ต้นทุนผันผวน

ภาพรวมอุตสาหกรรมในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2566 มองว่ามีแนวโน้มทรงตัวใกล้เคียงจากไตรมาสก่อน แม้ว่าสถานการณ์ต่างๆ จะเริ่มปรับตัวดีขึ้นจากนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่มีความชัดเจน อีกทั้งในช่วงปลายปีจะเข้าสู่ช่วงไฮซีซันของการจับจ่ายใช้สอย ส่งผลให้คาดว่าอัตราการบริโภคภายในประเทศจะมีการขยายตัวในทิศทางที่ดีขึ้น แต่ด้วยปัจจุบันยังคงมีหลายปัจจัยที่เข้ามากดดัน ทั้งในเรื่องของต้นทุนข้าวสาลีนำเข้าที่ยังคงมีความผันผวนและไม่แน่นอนสูง


แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาจะมีการปรับตัวลดลงบ้างแล้ว แต่ก็ยังมีโอกาสที่จะขยายตัวขึ้นได้อยู่จากปัจจัยของสงคราม รวมถึงการแข่งขันทางราคาที่ค่อนข้างรุนแรง ทำให้มีการต่อรองราคาของสัญญาซื้อขายใหม่จากลูกค้า ซึ่งจากนี้ยังต้องจับตารอดูสถานการณ์ต่อไปอย่างใกล้ชิด และคาดหวังว่าจะมีการคลายตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้นในปี 2567 ขณะที่ปัจจุบันวัตถุดิบข้าวสาลีคงคลังที่ถูกซื้อมาในราคาที่สูงยังมีอยู่ แต่เบื้องต้นคาดว่าภายในสิ้นปี 2566 จะถูกดึงมาใช้จนหมด และเริ่มใช้ต้นทุนข้าวสาลีล็อตใหม่


สำหรับแนวโน้มยอดขายในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2566 นี้ ส่วนใหญ่มีสัญญาการซื้อขายล่วงหน้าไว้แล้ว เหลือเพียงการทยอยส่งมอบและรับรู้เป็นรายได้ แต่อย่างไรก็ดี อาจยังมีความไม่แน่นอนจากความล่าช้าในการส่งมอบรวมอยู่ด้วย ซึ่งอาจต้องใช้เวลาในการดูสถานการณ์ต่างๆ ทั้งนี้ ในปี 2566 บริษัทคาดว่าอัตราการใช้กำลังผลิตจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ยราว 5% จากเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน หรืออยู่ที่ประมาณ 70-75%


** คงผลตอบแทนที่ดี

ทั้งนี้ เนื่องจากปีที่ผ่านมา ราคาตลาดข้าวสาลีและแป้งสาลีปรับสูงขึ้นมาก แต่ปัจจุบันราคาตลาดข้าวสาลีเริ่มปรับตัวลดลงตั้งแต่ปลายไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ทำให้บางโรงโม่ทำการเร่งระบายสต๊อกข้าวเก่าที่ราคาสูงโดยยอมขายราคาขาดทุน และทำให้ลูกค้าหลายรายนำราคาที่ได้นั้นมาต่อรองกับทางบริษัท ส่งผลให้บริษัทจำเป็นต้องลดราคาจำหน่ายแป้งให้ลูกค้าเพื่อรักษาความสัมพันธ์ไว้ ทั้งที่ราคาตลาดที่ลดลงนั้นยังไม่ได้สะท้อนมาถึงต้นทุนในปัจจุบันนี้


และทำให้บางสัญญาต้องยอมขายในราคาที่ขาดทุน ส่งผลต่ออัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงตั้งแต่ไตรมาส 2 และลดลงอย่างมากในไตรมาส3 แต่บริษัทยังคงมีผลการดำเนินงานรวมอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเมื่อเทียบกับธุรกิจในกลุ่มสินค้าเกษตรด้วยกัน และถึงแม้จะต้องเผชิญกับความผันผวนอย่างรุนแรงของราคาต้นทุน และราคาจำหน่ายแป้ง จนทำให้ผลประกอบการกำไรลดลงก็ตาม แต่บริษัทยังคงยึดมั่นและพยายามในการดำเนินธุรกิจที่ดี เพื่อสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมกับผู้ถือหุ้นต่อไป


อย่างไรก็ดี ปัจจุบันบริษัทมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์แป้งสาลีทั้งหมด 8 ประเภท ได้แก่ แป้งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แป้งขนมปัง แป้งอเนกประสงค์ แป้งบิสกิต แป้งบะหมี่สด แป้งซาลาเปา แป้งเค้ก และแป้งปาท่องโก๋ เป็นต้น โดยแบ่งสัดส่วนการจำหน่ายออกเป็น 31.37%, 20.23%, 24.93%, 17.39%, 5.91% และอื่นๆ 0.17% ตามลำดับ ซึ่งบริษัทยังมีสูตรในการผลิตแป้งสาลีอีกมากกว่า 100 สูตร รองรับความต้องการของลูกค้า และมีทีมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (R&D) ที่พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์ตอบสนองความต้องการลูกค้า

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

X คลิก https://twitter.com/thunhoon1

Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X