> mai > ABM

26 มกราคม 2024 เวลา 08:56 น.

ABM โรงไม้สับเด่น กวาดมาร์จิ้นสูง กำลังผลิตเท่าตัว

#ABM #ทันหุ้น – ABM ชี้ธุรกิจไม้สับขึ้นแท่นดาวเด่น เล็งอัพกำลังผลิตเพิ่มขึ้นเท่าตัว แตะ 6 หมื่นตัน โชว์โรงไม้สับ 4 แห่ง 2.4 หมื่นตันต่อเดือน ชี้มาร์จิ้นสูง ฟากผู้บริหาร “ปองธรรม  แดนวังเดิม” เล็งหาพาร์ตเนอร์ลุยธุรกิจ ดันผลงานเทิร์นอะราวด์เต็มตัว


นายปองธรรม แดนวังเดิม รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย ไบโอแมส จำกัด (มหาชน) หรือ ABM ผู้ประกอบธุรกิจจัดหาและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงชีวมวล เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจการจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวมวลก่อนหน้านี้ ABM ถือเป็นผู้ครองตลาดมากที่สุด 60% เพราะในช่วงก่อนหน้านี้ถ่านหินอยู่ในช่วงพีค ผู้ประกอบการหลายรายไม่ได้สนใจในธุรกิจการขายชีวมวล แต่ต่อมาปริมาณการขายถ่านหินลดลง ทำให้ผู้ประกอบการถ่านหินสนใจเข้ามาเล่นในตลาดชีวมวล ส่งผลให้คู่แข่งมีจำนวนมากขึ้นในอุตสาหกรรมการขายชีวมวล


** ฉายภาพธุรกิจ

ขณะที่ทิศทางธุรกิจปี 2567 คาดธุรกิจจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวมวลยังดูไม่ดีมากนัก เพราะมีคู่แข่งหลายราย และการแข่งขันค่อนข้างดุเดือด


ขณะเดียวกันบริษัทมองว่าธุรกิจโรงไม้สับ จะเป็นธุรกิจที่เติบโตโดดเด่น เพราะคู่แข่งน้อย และมีแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่อง ปัจจุบันบริษัทบริษัทมีโรงไม้สับจำนวน 3 โรง เป็นโรงไม้สับที่บริษัทเข้าลงทุน 2 โรง และโรงไม้สับที่จ้างผู้ประกอบการรายอื่น 1 โรง ซึ่งบริษัทมีแผนจะจ้างโรงงานเพิ่มอีก 1 โรง


หากรวม 4 โรง บริษัทจะมีกำลังผลิตโรงไม้สับที่ 2.4 หมื่นตันต่อเดือน หรือเฉลี่ยโรงละ 6 พันตันต่อเดือน ซึ่งบริษัทมีแผนจะเพิ่มกำลังผลิตอีกเท่าตัว คาดปลายปี 2567 จะเห็นกำลังการผลิตเป็น 6 ตันต่อเดือน ทั้งนี้บริษัทเดินหน้าลดต้นทุนทุกด้านเพื่อสร้างการแข่งขันและสร้างอัตรากำไร (มาร์จิ้น) ให้เพิ่มขึ้น โดยมองทิศทางคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) ส่งออกเติบโตดี จากในช่วงที่ผ่านมา มียอดส่งออกเป็นจำนวนมาก ซึ่งขนส่งผ่านทางเรือไปแล้ว 1 ลำ ส่วนทิศทางการขายเชื้อเพลิงชีวมวลปริมาณการขายลดลง ซึ่งเป็นไปตามภาวะอุตสาหกรรมและการแข่งขัน


** มาร์จิ้นสูง 12%

สำหรับอัตรากำไร (มาร์จิ้น) โรงไม้สับสูงถึง 12% เมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงชีวมวล สำหรับธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวมวลมีอัตรากำไรต่ำเป็นปกติ โดยเฉลี่ยบริษัทจะมีอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ที่ 1-2% ส่วนอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) อยู่ในระดับไม่มากนัก ซึ่งบริษัทจะพยายามควบคุมต้นทุนการผลิต และเพิ่มยอดขายเพิ่มขึ้น


นายปองธรรม กล่าวต่อว่า บริษัทมีแผนจะร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ เพื่อแชร์ facility และทำให้ต้นทุนต่อหน่วยถูกลง และผลักดันผลประกอบการให้กลับมาเทิร์นอะราวด์ ปัจจุบันบริษัทจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทั้ง 6 กลุ่ม ได้แก่ กะลาปาล์ม, เชื้อเพลิงชีวมวลอัดแท่ง, ขี้กบ, ขี้เลื่อย, ไม้สับ และไม้ยางพารา


นายปองธรรม กล่าวก่อนหน้านี้ว่า บริษัทมองดีมานด์เชื้อเพลิงชีวมวลในช่วง 3 ปี ต่อจากนี้จะเติบโตสูงเนื่องจากผู้ประกอบการต้องการลดคาร์บอนเพื่อสอดรับกับกระแสโลกที่มุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero CHG Emission) และหันมาใช้เชื้อเพลิงชีวมวลแทนถ่านหิน คาดปัจจัยดังกล่าวจะสนับสนุนยอดขายเชื้อเพลิงให้มีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้น


อนึ่ง 9 เดือนแรกปี 2566 บริษัทมีรายได้แล้วที่ 1,871.27 ล้านบาท และมีผลขาดทุน 58.14 ล้านบาท

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

X คลิก https://twitter.com/thunhoon1

Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X