#SUN #ทันหุ้น – SUN ประกาศงบปี 2566 กวาดกำไร 357.4 ล้านบาท โต 185.6% ประกาศแจกปันผล เป็นทั้งหุ้นและเงินสด ส่วนปี 2567 โตต่อ 10-15% ลุยสินค้าพร้อมทานเพื่อส่งออกไป ญี่ปุ่นและเกาหลี มั่นใจกระแสตอบรับดี พร้อมเตรียมออกสินค้าพร้อมทานในประเทศ เน้นผัก-ผลไม้ ภายใต้แบรนด์ KC เพิ่ม เดินแผนศึกษาลงทุนโครงการพลังงานทดแทนต่อเนื่อง

ดร.องอาจ กิตติคุณชัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) หรือ SUN เปิดเผยว่า สำหรับกำไรสุทธิของบริษัทและบริษัทย่อยในไตรมาส 4/2566 มีจำนวน 117.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 81.3 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 222.2 จากไตรมาส 4/2565 เนื่องจากปริมาณวัตถุดิบรับเข้าสูงขึ้นกว่าปีก่อน รายได้จากการขายสามารถขยายตัวทั้งในและต่างประเทศ ถึงแม้ต้นทุนสูงขึ้น จากราคาวัตถุดิบ แต่บริษัทสามารถเจรจากับคู่ค้าให้ราคาสินค้าปรับขึ้นสอดคล้องกับต้นทุนได้

นอกจากนนี้ยังเน้นบริหารต้นทุนผลิตให้มีประสิทธิภาพ จากการปรับปรุงสายการผลิตอย่างต่อเนื่อง ส่วน ค่าใช้จ่ายในการขาย และ ค่าใช้จ่ายบริหารยังคงควบคุมได้ดี นอกจากนี้บริษัทยังคงมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอย่างสม่ำเสมอ โดยมีกำไรจากตราสารอนุพันธ์และอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิ 39.9 ล้านบาท

*กำไรปี 66 เติบโตแรง

ในงบประจำปี 2566 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้จากการขาย จำนวน 3,696.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 756.3 ล้านบาท หรือร้อยละ 25.7 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับกำไรสุทธิของบริษัทและบริษัทย่อยงบประจำปี 2566 มีจำนวน 357.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 232.3 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 185.6 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสาเหตุเป็นไปตามที่กล่าวข้างต้น

ทั้งนี้ในไตรมาส 4/2566 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายจำนวน 843.9 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 317.2 ล้านบาท หรือร้อยละ 60.2 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 4/2565 แม้จะมีสภาวะแล้งจากฤดูกาลและปรากฏการณ์เอลนีโญบ้างแต่ยังคงมีปริมาณ วัตถุดิบรับเข้าเป็นไปตามแผน รายได้จากการขายต่างประเทศสามารถขยายตัวได้สูงขึ้นในทวีปเอเชีย ออสเตรเลีย และทวีป ยุโรป รายได้จากการขายในประเทศที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มสินค้าพร้อมทาน(RTE) โดยเฉพาะมันหวานเผา และถั่วลายเสือ นอกจากนี้ยังมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น ลำไยลอยแก้ว วางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อ

สำหรับแผนการเติบโตของบริษัทในปี 2567 คาดว่าผลการดำเนินงานจะเติบโต 10-15% โดยปีนี้จะเน้นในเรื่องของสินค้าพร้อมทาน (RTE) ภายใต้แบรนด์ KC โดยมีการพัฒนาสินค้าออกสู่ตลาดต่างประเทศ เดิมสินค้าพร้อมทานสามารถอยู่ได้ 7 วัน ได้มีการพัฒนาสินค้าพร้อมทานให้อยู่ได้ในระยะเวลา 1 ปี โดยจะเริ่มส่งออกสินค้าไปยังประเทศญี่ปุ่นและเกาหลี ในช่วงแรก และขยายไปยังประเทศอื่นต่อไป  ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของบริษัทมาจากการส่งออก 70-80% ซึ่งตลาดส่งออกสามารถเติบโตได้ต่อเนื่อง ปีที่ผ่านมาบริษัทก็ได้รับอานิสงค์จากการอ่อนค่าของเงินบาทด้วย

*ออกสินค้าพร้อมทานเพิ่ม

ขณะเดียวกันบริษัทยังเตรียมที่จะออกสินค้าใหม่ ที่เป็นสินค้าพร้อมทาน (RTE) เป็นสินค้าผักและผลไม้ เจาะกลุ่มตลาดในประเทศ คาดว่าจะเห็นการออกสินค้าใหม่ภายในปีนี้ พร้อมกันกันนี้บริษัท ยังศึกษาการลงทุนโครงการพลังงานทดแทนต่อเนื่อง หลังจากมีลงทุนโครงการผลิตไบโอแก๊ส (Biogas) จากซังข้าวโพด เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าสำหรับใช้ภายในโรงงานของซันสวีท ซึ่งวัตถุดิบหลักในการผลิต Biogas เป็นซังข้าวโพด 100% เป็น Waste จากการผลิตข้าวโพดหวานที่สามารถนำมาผลิต Biogas ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งช่วยลดภาระต้นทุนค่าไฟฟ้า

ทำให้บริษัทมองว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่ดีมาก จึงสนใจศึกษาการลงทุนเพิ่มเพื่อต่อการใช้วัตถุดิบต่อไป ขณะเดียวกันยังศึกษาการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับการลดคาร์บอน และการสร้างคาร์บอนเครดิต เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการต่างๆ อย่างมาตการ CBAM หรือมาตรการปรับคาร์บอนก่อนเข้าพรมแดน ที่จะกระทบต่อผู้ประกอบการส่งออกในอนาคต ดังนั้นบริษัทจึงได้เตรียมความพร้อมรองรับในส่วนนี้ อีกทั้งปัจจุบันยังมีการเจรจาโครงการ M&A ในธุรกิจกาเรกษตรคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในปีนี้

นอกจากนี้ยังมีอนุมัติการจ่ายปันผล อัตราการจ่ายหุ้นปันผล 5.00 หุ้นเดิม ต่อ 1.00 หุ้นปันผล อัตราการจ่ายปันผลเป็นหุ้น  0.10 บาทต่อหุ้น  ส่วนอัตราการจ่ายปันผลเป็นเงินสด 0.25 บาทหุ้น กำหนดวันที่จ่ายปันผล 20 พฤษภาคม 2567 ส่วนวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 29 เมษายน 2567