#KLINIQ #ทันหุ้น – บริษัท เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ KLINIQ จัดประชุมนักวิเคราะห์ออนไลน์เพื่ออัปเดตหลังผลประกอบการออก พร้อมหารือเกี่ยวกับกลยุทธ์ และเป้าหมาย

บล.กสิกรไทย : KLINIQ รายได้เพิ่มขึ้นแต่อัตรากำไรยังถูกกดดัน

บล.กสิกรไทยแนะนำ "ถือ" ด้วยราคาเป้าหมายปี 2567 ที 44.50 บาท เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 43.00 บาท จากการปรับเพิ่มสมมติฐานรายได้ และอัตรากำไร

ผู้บริหารยังคงเป้ารายได้ปี 2567 จะอยู่ที่ 3 พันลบ. ด้วยอัตรากำไรสุทธิที่ 13% และมีแผนเปิดสาขาใหม่ 20 แห่ง เพิ่มจากเป้าเดิมที่ 15 แห่ง

KLINIQ ชอบรูปแบบการลงทุนสินทรัพย์ต่ำๆ ในการขยายธุรกิจศัลยกรรม และกำลังทดสอบ 2 แบรนด์ใหม่เพื่อสนับสนุนแผนขยายธุรกิจหลังปี 2567

Investment Highlights

แนวทางในปี 2567ในการประชุมนักวิเคราะห์ทางออนไลน์เมื่อวันที่ 12 มี.ค.2567 ผู้บริหารยังคงเป้ารายได้ปี 2567 ที่ 3 พันลบ. และให้เป้าอัตรากำไรสุทธิที่ 13% เพิ่มขึ้นจาก 12.6% ในปี 2566โดยปัจจัยหนุนการเติบโตของรายได้จะมาจากแบรนด์ KLINIQUE, LabX และศูนย์ศัลยกรรม ทั้งนี้ KLINIQ จะเพิ่มจำนวนสาขาใหม่อีก 20 แห่ง และปรับปรุง 6 สาขาเดิมในปี 2567 เพิ่มขึ้นจากเป้าเดิมที่ 15 และ 2 แห่ง ตามลำดับ นอกจากนี้ ผู้บริหารคาดสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายต่อรายได้ลดลงและคาดว่าจะไม่มีการแข่งขันลดราคาอย่างหนักจากการควบรวมคลินิกความงามหรือจากผู้เล่นรายใหม่

ศูนย์ศัลยกรรมทำผลงานได้ดี ในปี 2566 รายได้ทำสถิติสูงสุดใหม่ทุกเดือนและรายงานกำไรครั้งแรกในไตรมาส 4/2566ส่วนในปี 2567 KLINIQ จะเพิ่มประเภทศัลยกรรมเข้ามาเพิ่มขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของรายได้ และจากการบริหารจัดการห้องผ่าตัดที่ดี จึงถึงจุดคุ้มทุนที่อัตราการใช้ห้องผ่าตัดที่เพียง 25-30%ในไตรมาส 4/2566 ซึ่งผู้บริหารคาดจะเพิ่มขึ้นเป็น 50% ในอีก 2 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ KLINIQ น่าจะใช้รูปแบบการเช่าตึกกับพันธมิตรเพื่อขยายธุรกิจศูนย์ศัลยกรรม

แบรนด์ใหม่ - SPA และ L clinic ผู้บริหารคาดว่าจะเพิ่มจำนวนสาขาของ 2 แบรนด์ใหม่ในปี 2568 ส่วนในปี 2567 KLINIQ จะย้ายที่ตั้งของ SPA ไปยังทำเลที่มีพื้นที่เพิ่มขึ้นในเดือนมิ.ย. ขณะที่ผู้บริหารคาดจะรับรู้กำไรจาก L Clinic ในไตรมาส 3/2567 ทั้งนี้ L clinic ตั้งเป้ากลุ่มลูกค้าระดับ "mass premium" โดยจะนำเสนอแพ็กเกจราคาที่ต่ำกว่า LabX และมีสัดส่วนเครื่องมือแพทย์ได้รับการรับรองจาก FDA สหรัฐฯ น้อยกว่า

แนวโน้มการเติบโตในไตรมาส 1/ 2567รายได้ในเดือนม.ค.-ก.พ. มีโมเมนตัมที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับในไตรมาส 4/2566ซึ่งได้รับผลกระทบเชิงลบจากเหตุการณ์ที่เกิดครั้งเดียว และ 6 ใน 10 สาขาใหม่ที่เปิดให้บริการในไตรมาส 1/2567 เป็นแบรนด์ KLINIQUE ซึ่งสร้างรายได้ได้เร็วกว่าแบรนด์ LabX ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นน่าจะถูกกดดันน้อยกว่าที่เห็นในไตรมาส 4/2566

ปรับเพิ่มประมาณการกำไร บล.กสิกรไทยปรับเพิ่มประมาณการกำไรปกติขึ้น 4-5% ในปี 2567-69เพื่อสะท้อนการปรับเพิ่มสมมติฐานรายได้และอัตรากำไร โดยยังไม่รวมแบรนด์ใหม่ ได้แก่ SPA, L clinic และศูนย์ศัลยกรรมใหม่ในประมาณการ

Valuation and Recommendation

บล.กสิกรไทยคำนวณมูลค่าหุ้น KLINIQ ด้วยวิธี DCF และ WACC ที่ 8.4% มูลค่ายุติธรรมปี 2567 ที่ 44.50 บาท สะท้อน PER ปี 2567 ที่ 28.3 เท่า ซึ่งต่ำกว่า -1SD ของระดับเฉลี่ย 12 เดือนที่ผ่านมาที่ 29.5 เท่า และสะท้อนอัตราตอบแทนเงินปันผลปี 2567 ที่ 3.3% แนะนำ "ถือ" แม้คาดว่ารายได้จะเติบโตแข็งแกร่งในปี 2567 จากการขยายสาขา แต่คาดว่าอัตรากำไรจะยังไม่สามารถเพิ่มขึ้นได้ในช่วงวัฎจักรการลงทุนโดยเฉพาะปี 2567ที่จำนวนเงินลงทุนจะทำสถิติสูงสุดใหม่ ราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้น 5% ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาน่าจะสะท้อนแผนการเปิดสาขาเพิ่มขึ้นในปี 2567 แล้ว คาดว่าอัตรากำไรยังจะลดลง QoQ ในไตรมาส 1/2567 แต่จะถูกชดเชยจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น และส่งผลให้กำไรสุทธิยังคงเป็นแนวโน้มขาขึ้น ความเสี่ยงขาขึ้นคาดจะมาจากการลงทุนใหม่และการควบคุมต้นทุนและ SG&A ที่ดีกว่าคาด ขณะที่ความเสี่ยงขาลงคาดจะมาจากการแข่งขันที่รุนแรงกว่าคาด

บล.ทิสโก้

เป้าหมายปี 2024 : ผู้บริหารเผยปี 2024 ตั้งเป้ารายได้เติบโต 30% เป็น 3.0 พันล้านบาท โดยมีอัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 13% (ปี 2023 เป็น 12.6%) ในระหว่างการสนทนา ยังได้แสดงความเห็นว่าต้องการให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายไม่เกิน 25.0% ในปีนี้ (ปี 2023 ที่ 27.5%) และค่าใช้จ่ายในการบริหารไม่เกิน 10.0% (ปี 2023 อยู่ที่ 12.0%)

เป้าหมายการเปิดสาขา : KLINIQ สิ้นสุดปี 2023 มีสาขาทั้งหมด 55 สาขาในประเทศไทย (เปิด 5 สาขาใน 4Q23 และรวม 15 สาขาตลอดทั้งปี) ตั้งแต่ต้นปีนี้ บริษัทได้เปิดสาขาแล้วอีก 8 สาขา และอีก 2 แห่งอยู่ในแผนก่อนสิ้นสุด 1Q24 ในช่วงที่เหลือของปีบริษัทมีแผนเปิดอีก 10 สาขา ซึ่งกระจายครอบคลุม 3 ไตรมาสที่เหลือ (ภายใต้แบรนด์หลัก 'The Klinique') และอีกครึ่งหนึ่งอยู่ภายใต้แบรนด์ L.A.B.X) ซึ่งเกินเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ 15 สาขาใหม่ในปีนี้

โมเมนตัมยอดขายในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ยังคงแข็งแกร่ง : บริษัทเปิดเผยว่าใน 4Q23 รายได้ในเดือนตุลาคมและพฤศจิกายนได้รับผลกระทบจากเหตุกราดยิงที่ห้างสรรพสินค้าพารากอน แต่ก็กลับมาอย่างรวดเร็ว และทำสถิติสูงสุดใหม่ในเดือนธันวาคม และโมเมนตัมยังรักษาได้ตลอดช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ (ได้รับแรงหนุนจากการกลับมาของนักท่องเที่ยว) ณ สิ้นปี 2023 โดยนักท่องเที่ยวมีสัดส่วนประมาณ 10% ของรายได้

ประเด็นสำคัญอื่นๆ : บริษัทแจงกำไรปี 2023 มาจากสาขาภายใต้แบรนด์ The Klinique เป็นหลัก ทั้งนี้ ศูนย์ผ่าตัดของทำกำไรเท่ากับต้นทุนพอดีในไตรมาสสุดท้ายของปี 2023 นอกจากนี้ KLINIQ ยังได้ทดสอบเปิดคลินิกระดับ 4 ดาวภายใต้แบรนด์ L’ Clinic และสปา เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต ทางบริษัทก็มีแผนปรับปรุงอัตรากำไรผ่านศูนย์ผ่าตัดซึ่งมีรายได้เฉลี่ยต่อบิลสูงกว่า

ประเด็นสำคัญทางการเงินปี 2023 : จากการนำเสนอ รายได้เพิ่มขึ้น 39.4% YoY เป็น 2.3 พันล้านบาทในปี 2023 ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเหลือ 54.0% ในปี 2023 จาก 56.3% (เนื่องจากรูปแบบร้านที่เปิดต่างกันโดยมีอัตรากำไรขั้นต้นต่างกัน 'เดอะคลีนิกค์) ' แบรนด์ยังคงครองอัตรากำไรขั้นต้นสูงสุด) กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 40.5% YoY เป็น 288.6 ล้านบาท

ประมาณการจาก consensus ปี 2024 : จาก SETTRADE consensus คาดว่ากำไรจะเพิ่มขึ้น 13.3% เป็น 327 ล้านบาท (EPS 1.49 บาท) ในปี 2024F และเพิ่มขึ้น 19.0% เป็น 389 ล้านบาท (EPS ที่ 1.77 บาท) ในปี 2025F ดังนั้น หุ้นจึงมีการซื้อขายที่ PER ที่ 27 เท่า สำหรับปี 2024F และ 23 เท่า สำหรับปี 2025F

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1