> mai > TMILL

02 พฤษภาคม 2024 เวลา 08:50 น.

TMILL ปักธงเจาะฐานภูธร ครึ่งหลังบริหารสต๊อกดีขึ้น

#TMILL #ทันหุ้น – TMILL วางกลยุทธ์ขยายฐานต่างจังหวัดเพิ่ม เน้นบริหารสต๊อก ข้าวสาลีเดิมให้มีประสิทธิภาพสูงสุด คาดทิศทางราคาข้าวสาลีเริ่มดีขึ้นไตรมาส 3/2567 หนุนยอดขาย-อัตรากำไรดีขึ้น เดินหน้าเพิ่มช่องทางขาย


นางแววตา กุลโชตธาดา ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บริษัท ที เอส ฟลาวมิลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TMILL โรงงานโม่แป้งสาลีรายใหญ่และมีเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยที่สุดในประเทศ เปิดเผยว่า แนวโน้วทิศทางยอดขายในช่วงไตรมาสที่ 2/2567 คาดว่าจะใกล้เคียงกับช่วงไตรมาสแรก ที่ผ่านมาซึ่งถือว่ายังไม่ค่อยดีนัก เนื่องจากปัจจุบันราคาข้าวสาลียังเป็นทิศทางขาลง อย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ด้วยสถานการณ์ความผันผวนของราคาวัตถุดิบโลก


** ยอดขายต่ำเป้า

นอกจากนี้สภาพเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยนัก ส่งผลให้บริษัทมียอดจำหน่ายแป้งต่ำกว่าเป้าหมาย และมีสต๊อกวัตถุดิบที่ราคาสูงคงเหลือยาวนานกว่าปกติ แต่ในด้านราคาจำหน่ายลูกค้าต่อรองทำให้ลดลงอย่างต่อเนื่อง บริษัทจำเป็นต้องยอมขายขาดทุนเพื่อรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าไว้บางส่วน โดยยังต้องแบกรับภาระสต๊อกข้าวที่มีต้นทุนสูงอยู่ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลง


ขณะที่แนวโน้มแนวโน้มราคาสต๊อกข้าวสาลีของบริษัทยังอยู่ในระดับสูง ไปจนถึงปลายไตรมาสที่ 2/2567 โดยบริษัทประเมินว่าราคาข้าวสาลีจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังช่วงไตรมาสที่ 3/2567 โดยราคาของต้นทุนจะต่ำลงตามราคาข้าวสาลีในตลาดโลก ซึ่งบริษัทเองได้เร่งบริหารจัดการสต๊อกข้าวสาลีปัจจุบันให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด


สำหรับแผนการขยายตลาดของบริษัทในปีนี้ ยังคงมุ่งเป้าขยายไปยังตลาดต่างจังหวัดเพิ่มเติม หาพนักงานขายเพิ่ม และปรับเปลี่ยนวิธีการขายให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น เพื่อผลักดันยอดขายให้มีการเติบโต ส่วนการลงทุนปีนี้อาจจะยังมีแผนการลงทุนที่ชัดเจนมากนัก เบื้องต้นคาดว่าจะมีการเพิ่มรถขนส่งเพื่อให้ตอบรับกลับลูกค้าได้ดีขึ้น เนื่องจากบริษัทอยากโฟกัส การขยายตลาดและเพิ่มช่องทางการขายให้มีความเสถียรก่อน


** จับตาค่าบาทอ่อน

ขณะที่การติดตามสถานการณ์ค่าเงินบาทที่ปัจจุบันถือว่า อ่อนค่าลงเป็นอย่างมาก บริษัทได้มีผู้เฝ้าดูสถานการณ์รายวันและคอยรายงานต่อผู้บริหาร รวมถึงมีการจัดตั้งคณะเจ้าหน้าที่ยุทธศาสตร์ และจัดประชุมใหญ่เดือนละ 1 ครั้ง เพื่อติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจและการเงินและประเมินความเสี่ยงของผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนพร้อมกับกำหนดแนวทางตอบสนองความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสมและทันท่วงที


ทั้งนี้เนื่องจากวัตถุดิบหลักคือข้าวสาลี นำเข้าจากต่างประเทศ ใช้การชำระเงินจะใช้สกุลเงินสหรัฐเป็นหลัก ในขณะที่สินค้าทั้งหมดผลิตและจัดจำหน่ายภายในประเทศ การดำเนินธุรกิจอาจจะส่งผลให้บริษัทได้รับผลกระทบจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนที่เกิดขึ้น หากค่าเงินบาทอ่อนค่าลง ก็จะทำให้ต้นทุนของบริษัทเพิ่มสูงขึ้น แต่ในขณะเดียวกันหากค่าเงินบาทแข็งค่า ก็จะทำให้ต้นทุนของบริษัทต่ำลง ดังนั้นเพื่อลดความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนบริษัท


รวมถึงการทำธุรกรรมทางการเงิน โดยการจองซื้ออัตราแลกเปลี่ยนตามสกุลเงินในการนำเข้าผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศล่วงหน้า (Fixed Forward Exchange Rate) เพื่อป้องกันความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนที่อาจจะส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัท รวมถึงบริษัทไม่มีนโยบายเก่งกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน การทำสัญญาจองซื้ออัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้านั้นจะอยู่ในดุลยพินิจของผู้บริหาร ซึ่งในการทำสัญญาดังกล่าวส่งผลให้บริษัทสามารถบริหารต้นทุนไม่ให้มีความผันผวนมากนักและทราบต้นทุนล่วงหน้าได้ดังนั้นผลการดำเนินงานที่ผ่านมาบริษัทจึงยังไม่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนยังมีนัยสำคัญ

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

X คลิก https://twitter.com/thunhoon1

Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวล่าสุด

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X