> mai > CEYE

10 เมษายน 2023 เวลา 09:05 น.

โฟกัสหุ้น mai : CEYE โบรกอัพกำไร ล็อกเป้าไกล 7 บาท

#CEYE #ทันหุ้น - บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ประเมินทิศทาง บริษัท ตาชำนิ จำกัด (มหาชน) หรือ CEYE ว่า มีประเด็นสำคัญในการลงทุน คาดกำไร 1Q/2566 เติบโต 10%QoQ และ 7%YoY : ทิศทางการดำเนินงานในช่วง 1Q/2566 มีแนวโน้มเติบโตเมื่อเทียบ YoY และ QoQ จากความต้องการด้านครีเอทีฟและโปรดักชั่นโฆษณาที่ฟื้นตัวโดดเด่นโดยเฉพาะเมื่อเทียบกับช่วง 1H/2565 ที่ยังมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน และจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นของลูกค้าธุรกิจที่หลากหลายทั้งกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม รถยนต์ การเงิน และสินค้าอุปโภคบริโภค


** เจ๋งคว้างานจีน

ล่าสุดบริษัทได้รับงานจากจีนซึ่งจะเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่ 1Q/2566 เป็นต้นไป และการเริ่มรับรู้รายได้บริษัทใหม่ที่เข้าไปลงทุน (บริษัท ซีอาล๊อต บูทีค โพสท์โปรดักชั่น จำกัด (ZEALOTS) ผู้ดำเนินธุรกิจ Post-Production ภาพเคลื่อนไหว และ บริษัท เออเบิร์น มีเดีย ครีเอชั่น จำกัด (UMC) ธุรกิจตัวแทนโฆษณา) ช่วยต่อยอดธุรกิจต้นน้ำและปลายน้ำของอุตสาหกรรม ซึ่งปกติบริษัทจะมีงานเป็นจำนวนมากในช่วงQ1 และ Q4 ของทุกปี ฝ่ายวิจัยคาดการณ์รายได้และกำไรในช่วง 1Q/2566 ราว 120 ล้านบาท (+10%QoQ, +11%YoY) และ 22 ล้านบาท (+10%QoQ, +7%YoY)


ประมาณการกำไรปี 2566 ที่เพิ่มขึ้น 4% เติบโต 29%YoY : ด้วยภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาที่มีอุปสงค์เพิ่มขึ้นมากจากอุตสาหกรรมอุปโภคบริโภค โอเปอเรเตอร์ค่ายต่างๆ บริการโอทีที (บริการเนื้อหาวิดีโอโดยการสตรีมผ่านอินเทอร์เน็ต) อุตสาหกรรมยานยนต์ และบริษัทอีคอมเมิร์ซที่กลับมาดำเนินกิจกรรมด้านการขายและการตลาดตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ การผ่อนปรนมาตรการการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19


** รุกขยายฐาน

ประกอบกับแผนขยายงานออนไลน์โปรดักชั่นในต่างประเทศมากขึ้นจากเดิมที่ให้บริการเพียงภาพนิ่งเป็นหลัก Synergy จากพันธมิตรใหม่ทำให้ฝ่ายวิจัยปรับประมาณการรายได้เพิ่มขึ้น 13% เป็น 450 ล้านบาทซึ่งใกล้เคียงกับเป้าหมายของผู้บริหาร การปรับเพิ่มสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นจากเดิม 29.5% เป็น 30% (Conservative เมื่อเทียบกับระดับ 34% ในช่วง 4Q/65) ทำให้ประมาณการกำไรสุทธิปี 2566 ใหม่เพิ่มขึ้นจากเดิม 4% เป็น 67 ล้านบาท ซึ่งเติบโต 29%YoY เติบโตต่อเนื่องแม้ว่าในปี 2565 เติบโตสูง 83%YoY


คงคำแนะนำ “ซื้อ” ปรับราคาเหมาะสมเป็น 7 บาท: การประเมินราคาเหมาะสมโดยใช้ Prospective PER เท่ากับ 30x ตามเดิมซึ่งใกล้เคียงกับอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ระหว่างปี 2564-66 (PER เฉลี่ยกลุ่ม media ในตลาด SET = 34x) ขณะที่ประมาณกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ปี 2566 ใหม่หลังปรับเพิ่มจำนวนหุ้น PP อยู่ที่ 0.23 บาทต่อหุ้น (จากเดิม 0.237 บาท) คำนวณเป็นราคาเหมาะสมได้เท่ากับ 7 บาท (เดิม 7.12 บาท) ซึ่งยังมี Upside  เราจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”



รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X