นายกวิศพงษ์ สิริธนนนท์สกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เคแอนด์เค ซุปเปอร์สโตร์ เซาท์เทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ KK ผู้ค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภค ภายใต้ชื่อร้าน "เคแอนด์เค ซุปเปอร์สโตร์" เปิดเผยว่า ยอดขายหลังเปิดปีใหม่ 2567 มา ยอดขายยังคงทรงตัว ไม่หวือหวา บริษัทมองแนวโน้มธุรกิจผลประกอบการไตรมาส 1/2567 จะดีกว่าช่วงเดียวกันกับปีก่อน เพราะมีสาขามากขึ้น ประกอบกับช่วงปีใหม่นักท่องเที่ยวมาเลเซียเดินทางเข้ามาในไทยเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ธุรกิจค้าปลีก ค้าส่งเริ่มคึกคัก
ขณะที่มาตรการ Easy e-Receipt ปัจจุบันสาขาของ KK สามารถออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ได้ทุกสาขา แต่ยอดการใช้จ่ายตั้งแต่เปิดต้นปี 2567 มา ยังไม่มาก เพราะการประชาสัมพันธ์ของรัฐที่จะเชิญชวนให้ผู้บริโภคเข้าร่วมโครงการนี้ยังไม่มากเท่าที่ควร เมื่อเทียบกับมาตรการช้อปดีมีคืนปีที่ผ่านมา
สำหรับภาพรวมยอดขายปี 2567 บริษัทตั้งเป้าเพิ่มเป็น 1.35 พันล้านบาท และคาดผลประกอบการจะกลับมาเทิร์นอะราวด์ จากการรับผลลงทุนในปี 2566 เข้ามาเต็มปี ซึ่งในครึ่งปีหลัง 2566 บริษัทขยายสาขาใหม่อีก 5 สาขา คาดสาขาใหม่จะช่วยจะเติมเต็มยอดขายปี 2567 ให้เติบโตเพิ่มขึ้นโดยบริษัทคาดการเติบโตสาขาเดิม หรือ Same Store Sales Growth (SSSG) จะโตได้ในระดับ 5%
“เรื่องต้นทุนยังเป็นนโยบายหลักที่เราต้องทำให้ปีนี้ และจะพยายามควบคุมให้คงที่ เพื่อไม่ให้ส่งผลต่อต้นทุนโดยรวมของบริษัท” นายกวิศพงษ์ กล่าว
ขณะที่แผนการขยายสาขาปี 2567 บริษัทตั้งเป้าจะเปิดสาขาใหม่เพียง 2 สาขา โดยใช้งบลงทุนประมาณ 50 ล้านบาท ทั้งนี้การลงทุนปี 2567 จะไม่มากเมื่อเทียบกับปี 2566 เพราะดูทิศทางเศรษฐกิจสัญญาณไม่ดี ประกอบกับมีปัจจัยลบ เรื่องค่าแรง หลังรัฐบาลประกอบปรับค่าแรงเพิ่มขึ้น ซึ่งจะกระทบต่อต้นทุนของบริษัท
ขณะเดียวกันบริษัทได้ปรับการใช้พลังงาน หรือใช้แผงโซลาร์เพื่อลดต้นทุนค่าไฟ คาดจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ประมาณ 30% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด
สำหรับช่วง 9 เดือนของปี 2566 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้จากการขายจำนวน 779.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 66.28 ล้านบาท คิดเป็น 9.29%เนื่องจากบริษัทมีอัตราการเติบโตของรายได้จากการขายสาขาเดิม (SSSG) ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566เทียบกับ 9 เดือนแรกของปี 2565เพิ่มขึ้น 6.84% และบริษัทมีการเปิดสาขาใหม่ อีกจำนวน 4 สาขา
อย่างไรก็ตามบริษัทได้มีนโยบาย การบริหารสินค้าคงคลัง สินค้าที่สำรองไว้เกินความจำเป็น อาจทำให้เกิดค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาสินค้าได้ ในขณะเดียวกัน ในบางช่วงเวลาที่บริษัทไม่มีสินค้าสำรองไว้รอการจำหน่าย บริษัทอาจเสียโอกาสทางธุรกิจในการขายสินค้านั้นได้ บริษัทจึงวางแผนการสั่งซื้อและกำหนดความถี่ในการสั่งซื้อสินค้าให้สอดคล้องกับยอดขายสินค้าและประมาณการความต้องการของลูกค้า และมีระบบบริหารจัดการสินค้าคงคลังที่บันทึกรายละเอียดการเคลื่อนไหวของสินค้าได้อย่างถูกต้องและแม่นยำจัดเก็บและกระจายสินค้าด้วยระบบเข้าก่อนออกก่อน (First in Firstout : FIFO)
นอกจากนี้ บริษัทมีนโยบายตรวจนับสินค้าคงคลังเพื่อให้การบริหารคลังสินค้ามีประสิทธิภาพมากที่สุด การแข่งขันของร้านค้าปลีก ธุรกิจค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคในจังหวัดสงขลามีการแข่งขันกันมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ติดตามข่าวสารสำรวจตลาดร้านค้าปลีก และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคอยู่เสมอ เพื่อนำมาปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางธุรกิจ เป็นต้น
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
X คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม