> mai > KLINIQ

04 มีนาคม 2024 เวลา 09:00 น.

COMPANY SNAPSHOT : KLINIQ ลุยเจาะไฮเอนด์ทำเงิน ยอดจ่ายต่อบิลสูง-ผุดสาขาใหม่

#KLINIQ #ทันหุ้น – KLINIQ เล็งขยายสาขาใหม่ทำเงิน ตั้งเป้าสิ้นปี 2567 แตะ 70 สาขา จากสิ้นปี 2566 ที่ 55 สาขา ด้านบิ๊กบอส “อภิรุจ ทองวัฒน์” ตั้งเป้ารายได้ปีมังกรโตต่อ 30% จากปีก่อนทำได้ 2.28 พันล้านบาท พร้อมเจาะลูกค้าไฮเอนด์ ยอดใช้จ่ายต่อบิลสูง 8 หมื่นอัพ


นพ.อภิรุจ  ทองวัฒน์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะคลีนิกค์ คลีนิกเวชกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ KLINIQ  เปิดเผยว่า ธุรกิจปี 2567 บริษัทจะโฟกัส Skin and Aesthetic หรือ แผนกผิวหนังและความงาม โดยมีแผนขยายสาขาอีก 15 สาขา เป็น 70 สาขา ในสิ้นปี 2567 จาก ณ สิ้นปี 2566 บริษัทมีสาขาทั้งหมด 55 สาขา แบ่งเป็น THE KLINIQ SURGERY CENTER 1 สาขา L.A.B.X 14 สาขา L’CLINIC 1 สาขา และ KLINIQ SPA 1 สาขา


** ขยายสาขาทำเงิน

สำหรับงบลงทุนการขยายสาขาจะแตกต่างกัน แต่โดยทั่วไปจะใช้งบสำหรับขยายสาขาอยู่ที่ประมาณ 30 ล้านบาท หรือรองลงมาจะอยู่ประมาณ 20 ล้านบาทรวมแล้วคาดปี 2567 จะใช้งบลงทุนประมาณ 200-300 ล้านบาท โดยงบจะมาจากการระดมทุนขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ปัจจุบันเงินจาก IPO มีอยู่ประมาณ 700-800 ล้านบาท จากการระดมทุนเงินมาทั้งหมด 1.4 พันล้านบาท


บริษัทวางแผนการขยายสาขาไปที่ต่างจังหวัด 40% และในกรุงเทพฯ 60% โดยมองโอกาสการเติบโตอีกมากในต่างจังหวัด ประกอบกับแบรนดิ้งของบริษัทค่อนข้างดี ระบบควบคุมง่าย และดีมานด์ความงามต่างจังหวัดมีโอกาสเติบโตสูง ส่วนในกรุงเทพฯ คาดจะเติบโตได้ ซึ่งมาจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ และจะสนับสนุนให้สาขาของ KLINIQ ที่อยู่ตาม CBD ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง


สำหรับแบรนด์ของ KLINIQ ยังได้รับการสนับสนุนจากลูกค้าเก่าเป็นอย่างดี ขณะเดียวกันลูกค้าใหม่ยังเข้าใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันบริษัทมีลูกค้าเก่าเข้ามาใช้บริการอยู่ที่ราว 70% อีกทั้งลูกค้าต่างชาติเดินทางเข้ามาใช้บริการในสาขาของ KLINIQ เพิ่มขึ้นย่างเห็นได้ชัด


บริษัทเห็นทิศทางการเติบโตของแผนกศัลยกรรมตกแต่งชัดเจน เพราะที่ผ่านมาตัวเลขการเติบโตกลุ่มนี้สูงถึง 300% แต่สัดส่วนรายได้หากเทียบกับกลุ่มผิวหนังและความงาม อาจจะคิดเป็นสัดส่วนเล็กน้อยหรือยังไม่ถึง 10%


** เจาะลูกค้าไฮเอนด์

“ศัลยกรรมที่เป็นรายได้หลักและได้รับความนิยมมากคือศัลยกรรมจมูก ซึ่งเป็นเทคนิคโอเพ่นจากเกาหลี ยอดใช้จ่ายต่อบิลประมาณ 1.5 แสนบาท รองลงมาคือการเสริมหน้าอกแบบพรีเมียม และเราจะเพิ่มหัตถการอื่นๆ เช่น ตัดกราม หยุบโหนกเข้ามาเพิ่มเติม เพราะลูกค้าต้องการทำศัลยกรรมแบบขั้นสูงจากเดิมไปอีก และเราจะเน้นลูกค้าระดับไฮเอนด์ หรือมียอดขายใช้จ่ายต่อบิลอยู่ที่ 8 หมื่นบาท และใช้หมอเฉพาะทาง รวมถึงไม่แข่งขันกับธุรกิจความงามที่เป็นแมส แต่จะเจาะกลุ่มไฮเอนด์เป็นหลัก” นพ.อภิรุจ กล่าว


นพ.อภิรุจ กล่าวต่อว่า ปี 2567 ตั้งเป้ารายได้โตประมาณ 30% จากปี 2566 สำหรับผลประกอบการปี 2566 ที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้ 2.28 พันล้านบาท เทียบกับปี 2565 ที่ 1.63 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.4% ซึ่งการเติบโตเป็นผลจากการขยายสาขาเพิ่มขึ้นอีก 15 สาขา เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงง่าย และรวมกับการขยายกลุ่มฐานลูกค้าแบรนด์ L.A.B.X ส่วนกำไรสุทธิปี 2566 ทำได้ 288.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.5% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน


นอกจากนี้บริษัทตั้งเป้าจะเปิดโรงพยาบาลศัลกยรรมในอนาคต เพื่อสร้างฐานการเติบโตให้แข็งแกร่ง และรองรับดีมานด์ศัลยกรรม พร้อมกันนี้บริษัทยังเห็นช่องทางการขยายธุรกิจผ่านการ M&A โดยสนใจต่อยอดธุรกิจสุขภาพ

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

X คลิก https://twitter.com/thunhoon1

Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X